ศบค.เผยไทยเหลือ 5 จว.สีแดง นอกนั้นปลอดภัยเขียวทั่วประเทศ
โควิด-19 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3,018 ราย พบใน 68 จังหวัด กรมควบคุมโรคได้ จัดอันดับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 10 ลำดับแรกของประเทศไทย อัตราป่วย 4.54 ต่อแสนประชากร โดยไม่รวมผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกันในสถานที่รัฐบาลจัดให้ (State quarantine) ได้แก่
1.กรุงเทพมหานคร ผู้ป่วยในพื้นที่ 1,531 ราย อัตราส่วน 26.99(คนต่อแสนประชากร) ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 16 ราย
2.ภูเก็ต 224 ราย อัตราส่วน 54.19
3.นนทบุรี 156 ราย อัตราส่วน 12.42
4.ยะลา ผู้ป่วยในพื้นที่ 125 ราย อัตราส่วน 23.39 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 8 ราย
5.สมุทรปราการ 115 ราย อัตราส่วน 8.61 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 1 ราย
6.ชลบุรี ผู้ป่วยในพื้นที่ 85 ราย อัตราส่วน 5.49 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 7 ราย
7.ปัตตานี ผู้ป่วยในพื้นที่รวม 79 ราย อัตราส่วน 10.95 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 12 ราย
8.สงขลา ผู้ป่วยในพื้นที่รวม 44 ราย อัตราส่วน 3.07 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 19 ราย และอยู่ที่ศูนย์กักกันคนเข้าเมือง 65 ราย รวม 84 ราย
9.เชียงใหม่ 41 ราย อัตราส่วน 2.31
10.ปทุมธานี 39 ราย อัตราส่วน 3.38
และอยู่ใน จังหวัดอื่นๆ 27 ราย ส่วนผู้ป่วยอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐบาลจัดไว้จำนวน 90 ราย และเป็นกลุ่มแรงงานใน จ.สงขลา 65 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,018 ราย เป็นรายใหม่ 1 ราย โดยการแยกจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ จำแนกตามระยะเวลาการรายงาน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 สีส้มอ่อน มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 19 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สุพรรณบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สกลนคร สุรินทร์ กระบี่ ชุมพร นราธิวาส ปัตตานี ภูเก็ต ยะลา สงขลา
กลุ่มที่ 2 สีเหลืองอ่อน ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 49 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระแก้ว สระบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร เชียงราย เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครสวรรค์ พะเยา กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู นครพนม อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี เลย ตรัง สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช พังงา และ สตูล (เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่รัฐบาลจัดไว้ state Quarantine)
กลุ่มที่ 3 สีเขียว ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน มีจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร น่าน พิจิตร บึงกาฬ ระนอง และสตูล(เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่รัฐบาลจัดไว้ state Quarantine)
“ในขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งประเทศ และมีเพียงพื้นที่สีแดงจำนวน 5 จังหวัด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รวบรวมสถิติสถานการณ์โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – วันที่ 9 พฤษภาคม จำนวน 18 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 85,689 ราย คิดอัตราป่วย 129 ต่อ 100,000 ประชากร พบผู้เสียชีวิต 50 ราย พบว่า ในช่วงเดือนมกราคมมีจำนวนผู้ป่วยสูง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมากนัก
“แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาเริ่มมีการรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบลดน้อยเช่นกัน หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ในช่วงสัปดาห์นี้ของปี 2562 พบว่า จะต้องมีผู้ป่วยโรคปอดเสบไม่ต่ำกว่า 4,000 ราย แต่ในปี 2563 มีการรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบน้อยกว่าปีที่แล้วอย่างมาก โดยยังมีจำนวนไม่ถึงหลักพัน และหากเป็นปกติแล้วช่วงหน้าร้อนโรคต่างๆ จะลดลงและจะเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าฝน”โฆษก ศบค.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ดังนั้นที่บอกว่ามีการนำเอาตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ไปซุกซ่อนในกลุ่มอื่นนั้น จึงสามารถยืนยันได้จากรานงานของกรมควบคุมโรคซึ่งเป็นรายงานทั่วประเทศ และจะต้องดูแลทุกโรคเป็นอย่างดีทุกโรค เนื่องจากมีต่อสุขภาพกายและเศรษฐกิจทั้งสิ้น
