| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เสียงจาก ‘ผับบาร์’ ครวญกฎเหล็ก เปิดใหม่ไม่คุ้ม
ผับบาร์ – ดีเดย์ 1 กรกฎาคม ที่ ศบค.ไฟเขียวให้ “ผับ–บาร์” รวมทั้งกิจการสีแดงเปิดดำเนินการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด อาทิ ควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการให้เหมาะสมต่อพื้นที่, งดให้บริการผู้ที่มาเป็นกลุ่มเกิน 5 คนขึ้นไป, จัดให้มีระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่น้อยกว่า 2 เมตร, อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น งดการส่งเสียงร้องเพลงและเต้นรำ, งดให้พนักงานหรือตัวแทนประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มนั่งรวมกับผู้ใช้บริการ
ผู้ประกอบการจะว่ายังไงกับกฎเหล็กดังกล่าว
สุนทร แพงไพรี หรือ “เสี่ยทร”เจ้าของผับ อัพเดท โคราช ริมถนนช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ให้ความเห็นว่า มาตรการหลายข้อไม่สอดคล้องกับรูปแบบของผับ บาร์ เช่น จำกัดคนเข้า, งดให้บริการกลุ่ม 5 คนขึ้นไป, ให้นั่งรับประทานอาหารเท่านั้นโดยไม่มีการร้องเพลง หรือเต้นรำ และงดไม่ให้มีสาวเชียร์เบียร์ ทำให้บรรยากาศผับบาร์ หายไปโดยสิ้นเชิง
“หากมีมาตรการเหล่านี้เชื่อว่าไม่มีใครเปิดบริการผับบาร์แน่ เพราะไม่คุ้ม เนื่องจากจะมีคนมาน้อยมาก ร้านผมจะไม่เปิดแน่นอน และผมอาจเห็นสวนทางกับเจ้าของผับบาร์ ทั่วไปว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่สมควรเปิดผับบาร์ เนื่องจากหลายประเทศยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง ซึ่งผับบาร์ มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อ เมื่อคนเข้าไปเที่ยวแล้วมีอาการเมา มาตรการที่ออกมาก็คุมไม่อยู่แน่นอน สู้อดทนรอให้สถานการณ์ทั่วโลกคลี่คลาย หรือมีวัคซีนก่อน ค่อยเปิดจะดีกว่า เพราะถ้าเปิดบริการแล้ว มีการระบาดระลอกใหม่ทั่วประเทศ จนเศรษฐกิจพังทั้งประเทศ ใครจะรับผิดชอบ ผับ บาร์ จะรับผิดชอบไหวหรือไม่ หรือรัฐบาลจะรับผิดชอบได้หรือไม่
“แต่ถ้าจะให้เปิด ก็อยากให้จัดโซนที่ร้านผับบาร์ มีผลต่อเศรษฐกิจหลักของจังหวัดนั้นๆ เน้นไปที่เมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ บางพื้นที่ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ถ้าจะเปิดขอให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านใหม่ โดยเปิดเป็นห้องโล่ง ไม่ปิดกระจกติดแอร์ อาจจะพอสบายใจได้บ้าง” เสี่ยทรแนะนำ
ด้าน ศิริพงษ์ พัฒนากิติกุล ผู้จัดการ ร้านโกลด์สตาร์ คาราโอเกะ ตั้งอยู่กลางเมืองจ.เชียงใหม่ เห็นว่า กฎเหล็กที่ออกมาสามารถทำได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นข้อที่ระบุว่าห้ามนั่งร้องเพลงเสียงดัง มีปัญหาแน่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปห้ามลูกค้าไม่ให้ร้องเพลงเสียงดัง เพราะมันคืออารมณ์ของลูกค้า ความสนุกของเขา ข้อนี้อาจทำเปิดกิจการไม่ได้เลยส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหา สามารถจัดการได้ เพราะทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าต้องระมัดระวังอยู่แล้ว
เชื่อว่า คาราโอเกะ กว่า 300 แห่งที่มีทะเบียนถูกต้องในเชียงใหม่ คงเหลือสัก 70-80 ร้านเท่านั้นที่จะสามารถให้บริการได้ตามข้อกำหนด แต่ไม่รวมร้านที่ไม่ได้จดทะเบียน
ส่วนของ สาวนั่งดริงก์ เราเข้มงวดมากจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดแน่นอน ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็ต้องใส่หน้ากาก และให้มีระยะห่างในการนั่งกับลูกค้า ไม่น่าจะกระทบต่อความพอใจของลูกค้า สามารถพูดคุยกันได้แม้จะนั่งห่างกัน ปรับสภาพกันไป ลูกค้าก็จะชินไปเอง
ย้อนอ่าน : เคาะแล้ว!! “ห้าง” ปิด 4 ทุ่ม “ผับ บาร์” เปิดไม่เกินเที่ยงคืน “อาบอบนวด” สวมหน้ากาก-ห้ามขายประเวณี
ดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมสถานบันเทิงเมืองพัทยา เสริมว่ากฎเหล็กในการเปิดผับบาร์นั้น คิดว่าสถานบันเทิงส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ แต่คงยังไม่พร้อมที่จะเปิดให้บริการตามข้อกำหนด เนื่องจากมาตรการที่ออกมาทำให้ผู้ประกอบการแบกภาระต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องจ้างพนักงานมากำกับดูแลลูกค้าไม่ให้ทำผิดข้อกำหนด อย่าง การห้ามร้องเพลง หรือส่งเสียง รวมทั้งการคัดกรอง และการทำความสะอาด
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้บริการก็ยังไม่สนใจมาใช้บริการมากนัก เนื่องจากมีข้อกำหนดหลายอย่าง โดยเฉพาะให้สั่งดื่มเป็นแก้ว ห้ามการสั่งแบบขวด ซึ่งผู้ใช้บริการจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
นอกจากนี้ การจำกัดผู้ใช้บริการไม่เกิน 5 คนต่อกลุ่ม และการเว้นระยะห่าง 2 เมตรนั้น สถานประกอบการขนาดเล็กที่มีที่นั่ง 20-30 ที่ จะทำให้จำนวนที่นั่งหายไปกว่า 50% ไม่คุ้มกับการเปิดให้บริการ
ส่วนสถานประกอบการขนาดใหญ่ในเมืองพัทยาจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเดินทางข้ามประเทศ หากเปิดให้บริการไปก็จะไม่คุ้มต่อทุน
น.ส.ปุณยนุช วรนุช ประธานชมรมบาร์เบียร์หัวหิน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เผยว่า หลังบาร์เบียร์ ซอยบิณฑบาต ด้านหน้าวัดหัวหิน และพื้นที่อื่นถูกสั่งปิดนาน 3 เดือน จะทยอยเปิดให้บริการขายอาหารและเครื่องดื่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป เพื่อบริการนักท่องเที่ยว
จะเปิดร้านเวลา 16.00 น และปิดร้านเวลา 22.00 น.เพื่อหารายได้จ่ายเป็นค่าเช่าร้าน เนื่องจากการปิดนานหลายเดือน ทำให้ผู้ประกอบการและลูกจ้างกว่า 1,500 คน ไม่มีรายได้ บางร้านต้องปิดและเซ้งกิจการ
การเปิดบริการจะเน้นให้ทุกร้านปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และในระยะยาวขอให้จังหวัดหรือปกครองอำเภอกำหนดโซนบาร์เบียร์ให้ชัดเจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
ขณะที่ วีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ให้ความเห็นว่า มาตรการดังกล่าวมีบางอย่างที่ไม่ตรงกับบริบทของสถานบันเทิง ทำได้จริงไม่กี่ข้อ บางข้อจำกัดเกินไป ลูกค้าคงไม่เข้าใช้บริการ เช่น ห้ามส่งเสียงร้องเพลงหรือเต้นรำ
จากที่พูดคุยกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงซอยบางลา หาดป่าตองแล้วพบว่าที่ผ่านมามีปัญหามาก ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป และปัญหาค่าเช่าพื้นที่ คาดว่าวันที่ 1 กรกฎาคม จะมีสถานบันเทิงแค่บางส่วนที่เปิดให้บริการ คาดว่ามีไม่เกิน 20% อีก 80% น่าจะปิดยาวต่อไป
ที่ผ่านมา ทางชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง ประชุมร่วมกับจังหวัดไปแล้ว 2 ครั้ง เคยเสนอข้อมูลสถานบันเทิงของป่าตอง แต่ก็เงียบหายไป ขณะเดียวกันได้เสนอปัญหาความเดือดร้อนของสถานบันเทิงคือ ค่าเช่าพื้นที่ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการสถานบันเทิงในซอยบางลาหาดป่าตอง ต้องเช่าพื้นที่เฉลี่ย 50,000-400,000 บาทต่อเดือน แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ต้องหยุดกิจการ ไม่มีรายได้มาจ่ายค่าเช่า บางรายสามารถเจรจากับเจ้าของพื้นที่ขอลดหรือไม่เก็บค่าเช่าได้ แต่บางรายเจรจาขอลดหรืองดค่าเช่าไม่ได้ ทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายเล็กไม่สามารถเปิดกิจการต่อได้
“ดังนั้น ทางชมรมเห็นว่า ต้องการให้ทางจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน คือ ช่วยเป็นคนกลาง หารือเจรจากับเจ้าของพื้นที่หรือผู้ให้เช่าพื้นที่ทั้งหมด เพื่อขอลด งด หรือผ่อนผันค่าเช่าตามความเหมาะสม เพื่อให้ผู้เช่าสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ก่อนจะเป็นเรื่องที่ดี” ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง แนะนำและร้องขอช่วยเหลือ
เป็นเสียงจากผู้ประกอบการผับบาร์ คาราโอเกะ ถึงการเปิดให้บริการใหม่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาด มีบางแห่งพร้อมเปิดเพื่อหวังจะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่หลายแห่งขอปิดต่อเพราะเปิดร้านก็ไม่คุ้ม
