สธ.เผยกักตัวไทย-เทศแล้วกว่าแสนคน พบติดโควิด-19 แค่ 0.63%

สธ.เผยกักตัวไทย-เทศแล้วกว่าแสนคน พบติดโควิด-19 แค่ 0.63%

วันนี้ (8 ตุลาคม 2563) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา 1 ราย, อินเดีย 1 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย, ฮังการี 2 ราย, เนเธอแลนด์ 1 ราย, คูเวต 1 ราย) ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้, สถานกักตัวที่รัฐกำหนด และโรงพยาบาลทางเลือก มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 48 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,439 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.95 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 124 ราย หรือร้อยละ 3.42 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,590 ราย

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทย ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ มากกว่าร้อยละ 80 ไม่มีอาการ ภาครัฐยังคงใช้มาตรการกักตัวผู้เดินทางเป็นเวลา 14 วัน และอยู่ระหว่างทบทวนจำนวนวันกักกันให้เหลือ 10 วัน ตามข้อมูลวิชาการ ทั้งในส่วนผู้ที่เดินทางทางอากาศ และผ่านด่านพรมแดน

“จากรายงานของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่เริ่มอนุญาตให้มีการเดินทางเข้าประเทศ ถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2563 มีผู้เดินทางเข้าประเทศสะสม 107,770 ราย พบผู้ติดเชื้อ 684 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.63 ของผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยทุกคนเข้ารับการกักตัวในสถานกักตัวรูปแบบต่างๆ ดังนี้ สถานกักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) 55,426 ราย, สถานกักตัวในท้องถิ่น (Local Quarantine) 30,871 ราย, สถานกักตัวที่รัฐกำหนดทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น (Alternative State Quarantine / Alternative Local Quarantine) 18,380 ราย, โรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) 917 ราย และสถานกักตัวรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organization Quarantine) 2,176 ราย” ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนของประเทศนั้น ขณะนี้ยังเป็นที่น่ากังวล เนื่องจากในประเทศเพื่อนบ้านยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหน่วยงานภาครัฐจะคุมเข้มในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่อาจมีลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายได้ ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่ได้ผ่านการคัดกรองและกักกันโรคตามมาตรการ ซึ่งหากเกิดการแพร่เชื้อจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต และระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ และประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากพบผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หรือมีแรงงานผิดกฎหมายขอเข้าทำงานให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว และให้ทุกคนยังคงต้องป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงสถานที่แออัดมีคนจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และสัมผัสเชื้อ

Advertisement

“ขณะนี้ประเทศไทยมีอากาศเปลี่ยนแปลงอาจป่วยด้วยโรคไข้หวัดได้ง่าย ซึ่งโรคโควิด-19 และไข้หวัดผู้ป่วยจะมีอาการใกล้เคียงกันมาก ขอให้ทุกคนเฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ โดยเฉพาะหากป่วยด้วยอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ ลิ้นรับรส หรือจมูกได้กลิ่นลดลง ภายหลังจากเดินทางไปในที่ชุมชน สถานที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที” นพ.โสภณ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image