สธ. ชี้ สถานการณ์โควิดไทย มีแนวโน้มดีขึ้น เหมาะผ่อนคลายมาตรการ

สธ. ชี้ สถานการณ์โควิดไทย มีแนวโน้มดีขึ้น เหมาะผ่อนคลายมาตรการ

วันนี้ (23 มกราคม) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า จำนวนผู้ป่วยสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม สะสมที่ 1,622 ราย ซึ่งใกล้เคียงจากสัปดาห์ที่ 2 ที่มีผู้ป่วย 1,627 ราย ต่างกันเพียง 5 ราย ส่วนการค้นหาเชิงรุกในชุมชนยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เคยพบสูงสุดที่ 516 ราย และในวันนี้พบ 217 ราย

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ เคยพบผู้ป่วยสูงสุด 250 ราย หลังจากนั้นมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่มีการแกว่งตัวที่รายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในทางสถิติจะต้องติดตามว่าจะกระทบกับแนวโน้มหรือไม่ เนื่องจากการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 2-3 วันยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเป็นทิศทางที่เพิ่มขึ้นหรือแกว่งขึ้นลงเล็กน้อยไปเรื่อยๆ

“เราไม่ต้องการควบคุมให้เป็นศูนย์ราย เพราะจะทำให้การดำเนินชีวิตกิจกรรมเศรษฐกิจไปต่อได้ยาก จึงไม่ใช่เป้าหมาย ดังนั้นจะต้องบาลานซ์กันและสามารถดูแลการควบคุมได้ ในขณะที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นไปด้วยดี จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการควบคุมการระบาดในครั้งนี้” นพ.เฉวตสรร กล่าว

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า แผนที่แสดงจังหวัดพบผู้ติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบว่า สีแดง คือจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-3 วันที่ผ่านมามี 16 จังหวัด สีส้มไม่มีผู้ติดเชื้อในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มี 1 จังหวัด สีเหลืองไม่มีผู้ติดเชื้อในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา มี 6 จังหวัด สีเขียวไม่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 7 วันที่ผ่านมา มี 41 จังหวัด และสีขาวไม่มีผู้ติดเชื้อมาก่อน 14 จังหวัด

Advertisement

ทั้งนี้ นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สรุปภาพรวมสถานการณ์ของประเทศไทย ถึงแม้ว่า 3 วันล่าสุด จะมีการเพิ่มขึ้นของจํานวนผู้ติดเชื้อ แต่โดยแนวโน้มจึงเชื่อว่ายังอยู่ในขอบเขตที่ทิศทางไม่ได้เปลี่ยนเป็นพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ภาพของแต่ละจังหวัดที่มีการลดลงเห็นชัดเจน จึงมีแนวโน้มว่าจะปรับมาตรการให้เหมาะสมในการผ่อนปรนผ่อนคลาย สัปดาห์นี้พบผู้ติดเชื้อปรากฏในจังหวัดใกล้กับสมุทรสาคร แต่การสอบสวนโรคทำให้ทราบว่ามีประวัติเข้าออกในสมุทรสาคร ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการส่วนที่เข้มข้นขึ้น ก็จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ เช่น มาตรการระดับบุคคล จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงการเว้นระยะห่างระหว่างในครอบครัว หากมีการจัดงานจะต้องจำกัดจำนวนผู้เข้างานตามขนาดของพื้นที่

ส่วนมาตราการระดับองค์กรจะต้องยกระดับมาตรการควบคุม โดยเฉพาะผู้ทำงานข้ามจังหวัด เน้นในการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ครบ 14 วันและการเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลสมุทรสาครและจังหวัดโดยรอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image