อย. ย้ำ แอนติเจน เทสต์ คิท ประกาศราชกิจจาฯแล้ว คาดใช้จริงสัปดาห์หน้า จี้ผู้ผลิตทำคู่มือ กำชับแยงจมูกต้องลึก เพื่อค่าชัดเจน
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า หลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ลงนามเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องชุดตรวจและน้ำยาเกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2(เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตัวเอง (COVID -19 Antigen Test Self-test kits) ว่า ขณะนี้ทาง อย.ได้ให้ทางบริษัท ผู้ผลิตเร่งจัดทำคู่มือในการอธิบายประชาชน และ แสดงหลักฐาน ว่า “การตรวจด้วยชุดทดสอบนี้ ที่จะมีการตรวจในลักษณะการแยงโพรงจมูกด้านหน้า มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการแยงโพรงจมูกด้านหลังที่มีการใช้ในสถานพยาบาล” เพื่อให้มีมาตรฐาน
ทั้งนี้การตรวจด้วยชุดทดสอบแอนติเจน เทสท์ คิท นี้ คาดว่าจะสามารถใช้ได้จริงในสัปดาห์หน้า ในระหว่างนี้ทางอย. และกรมวิทยฯ ได้เร่งทำคลิปวีดิโออธิบายการใช้ในประชาชน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องถึงขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การแยงจมูกในโพรงด้านหน้า ที่ต้องลึกประมาณ 1-2ซม. และปั่นจมูกชิดด้านขวา เพื่อให้ตัวอย่างในการตรวจที่สมบูรณ์ จากนั้น นำมาแช่ในน้ำยา และ รวมถึงวิธีการจัดเก็บทำลายเพื่อไม่ให้กลายเป็นขยะติดเชื้อ
นพ.สุรโชค กล่าวว่า ขณะนี้มี บริษัท ที่คาดว่า จะสามารถปรับชุดทดสอบให้สามารถใช้ได้ในโพรงจมูกด้านหน้า 7 บริษัท เดิมมี 24 บริษัทที่เป็นชุดทดสอบที่ใช้ในโพรงจมูกด้านหลัง อย่างไรก็ตาม การวางจำหน่ายชุดทดสอบนี้จะทำในร้านขายยาที่มีเภสัชกร และต้องมีการรายงานการจำหน่ายมายังอย.เหมือนกับการเครื่องมือแพทย์ทั่วไป ทั้งนี้ทราบว่า ภายในสัปดาห์นี้ทาง สปสช. ได้มีการกระจายชุดทดสอบนี้ลงไปในคลินิกชุมนมอบอุ่นแล้ว เริ่มมีการใช้ในประชาชน อย่างไรก็ตาม ทางอย.ยังกังวลถึงการใช้ชุดตรวจที่ถูกต้อง
“วิธีการตรวจนี้อาจไม่แม่นยำเท่า RT-PCR แต่เหมาะสำหรับคนเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการ ต้องการรับการตรวจอย่างรวดเร็ว แต่ต้องควบคู่กับมาตรการกักตรวจอย่างเคร่งครัด เพราะบางรายผลตรวจเป็นลบ ต้องมีการตรวจซ้ำใน 3 วันถัดไป เพื่อความแม่นยำปลอดภัย เพราะชุดตรวจดังกล่าวจะตรวจจับได้ดีในคนที่มีปริมาณเชื้อมาก ก็จะแสดงผลเป็นบวกทันที ดังกล่าว หากภายใน 1-3 วัน เริ่มมีอาการตรวจซ้ำ และเมื่อตรวจแล้วยังต้องมีช่องทางการติดต่อกับสถานพยาบาลด้วย ทุกอย่างต้องทำอย่างเป็นระบบ” นพ.สุรโชค กล่าว