‘หมอทศพร’ ชวนจับตาวัคซีน-รายชื่อผี ชี้ด่านหน้าต้องได้ไฟเซอร์​ จี้คืนเงินจองโมเดอร์นา

‘หมอทศพร’ ชวนจับตาวัคซีน-รายชื่อผี ชี้ด่านหน้าต้องได้ไฟเซอร์​ จี้คืนเงินจองโมเดอร์นา จ่อตั้งกองทุนเยียวยา ‘บุตรกำพร้า’ จากโควิด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์ ได้แก่ ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, กลุ่มหมอไม่ทน, เครือข่ายพยาบาล (Nurse Connect), สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA-Thailand) และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร (DNA) เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อสถานทูตสหรัฐ เพื่อขอให้ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 1.5 ล้านโดส ซึ่งจะถูกส่งจากสหรัฐมาประเทศไทยในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ให้ถึงบุคลากรด่านหน้าและประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ณัฐ ศิริรัตน์บุญขจร ตัวแทนภาคีบุคลากรสาธารณสุข กล่าวกับ นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถึงความกังวลใจของบุคลากรด่านหน้าที่มีต่อภาครัฐไทยในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ซึ่งได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา และจะเข้ามาวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ก่อนยื่นจดหมายเปิดผนึก

อ่านข่าว : ‘หมอ-พยาบาลด่านหน้า’ ร้อง ‘สถานทูตสหรัฐ’ จับตาไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส พ้อ รบ.กำลังส่งไปตาย

Advertisement

ต่อมา เวลา 10.20 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ประชาชนต้องช่วยกันเรียกร้องถึงความโปร่งใสให้กับวัคซีนในประเทศไทย เพราะตอนนี้ความเชื่อมั่นในรัฐบาลหมดไปแล้ว

“ถ้าเราจำได้ เริ่มต้นตั้งแต่ที่มีข่าวว่าทางสหรัฐอเมริกาจะบริจาควัคซีนให้เรา 1.5 ล้านโดส ก็มีการประชุมในกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าถ้าจะให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดเป็นเข็มที่ 3 นั้นจะเสียหน้า อธิบายไม่ได้ เพราะให้ซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม แต่ไม่ได้ผล

จนน้องๆ ออกมากดดันกัน ในที่สุดทางแพทย์ที่ปรึกษาของนายกฯ ก็เลยต้องยอมให้ไฟเซอร์สำหรับบุคลากรสาธารณสุข ตอนแรกบอกว่าทั้งหมดประมาณ 70,000 กว่าคน ไปๆ มาๆ กลายเป็นเหลือ 500,000 คนแล้ว”

Advertisement

“รัฐบาลเป็นไม้หลักปักขี้เลน กลับไปกลับมาโยกเยกอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของน้องๆ ของพวกเราประชาชนที่ต้องจับตาดู ไม่เพียงแต่ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสเท่านั้นว่าจะไปไหน แต่ต่อไปไม่ว่าวัคซีนอะไรรัฐบาลต้องบอกได้ว่าฉีดให้ใคร ที่ไหน ด้วยเหตุผลอะไร และต้องตรวจสอบได้ทุกคน”

นพ.ทศพรกล่าวต่อว่า อยากบอกโรงพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ถ้าไม่ได้ฉีด ชื่อหายไป หรือเป็นชื่อผี ที่เหมือนตอนมีการเลือกตั้ง ซึ่งหลายคนแจ้งตนมาว่าทางโรงพยาบาลอยู่ดีๆ มีชื่อใครก็ไม่รู้ปนเข้ามาก็ขอให้แจ้งเข้ามาที่เพจ “ก็ผมไม่มีทางเลือก(วัคซีน)นี่ครับ” ที่ตนทำอยู่ พวกเราจะช่วยกันตรวจสอบให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้เป็นอันดับต้น เพราะคือผู้ที่ดูแลความเป็นความตายของคนทั้งประเทศ และประชาชนทุกคนต้องได้รับวัคซีนอย่างเป็นธรรม รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นาด้วย

“การที่สภากาชาดออกมาชี้แจงไทม์ไลน์ทำให้นึกถึงนักเรียนเวลาทำการบ้านส่งครูไม่ทัน วันรุ่งขึ้นก็มานั่งแต่งจดหมายลาครูว่าเมื่อวานป่วย ปวดหัว เป็นนู่นเป็นนั่น ไทม์ไลน์ที่สภากาชาดออกมาชี้แจงไม่ได้เป็นไทม์ไลน์ ไม่มีอะไรที่ชัดเจนเลย ฉะนั้น ต้องไปถามประชาชนดูว่าเชื่อสภากาชาดหรือไม่ สภากาชาดทำให้อะไรยุ่งยากเข้าไปอีก 1 ล้านโดสที่โผล่ออกมา ผมยังยืนยันว่าต้องเอาไปให้คนที่จองซื้อแล้ว และต่อไปนี้หากมีแผนอะไรรัฐบาลจัดซื้อเองเลย แล้วค่อยจัดลำดับความสำคัญในภาพรวมของประเทศให้เรียบร้อยว่าจะฉีดกลุ่มไหน ไม่เช่นนั้นให้คนนู้นทำทีคนนี้ทำทีจะยุ่งยาก ชุลมุนไปหมด” นพ.ทศพรกล่าว

นพ.ทศพรกล่าวอีกว่า ส่วนทุกบาทที่ประชาชนจ่ายไปแล้วกับวัคซีน mRNA รัฐบาลต้องจ่ายคืน ประชาชนไม่สมควรต้องเสียเงินซื้อวัคซีน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลทุกคนให้ได้วัคซีนที่มีคุณภาพ จึงจะควบคุมโควิดได้อยู่ทั้งประเทศ

“เราจะเห็นคนที่ตายจากโควิดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เสียใจมากก็คือพ่อแม่ตาย เป็นลูกกำพร้า นี่คือปัญหาที่หนัก ผมได้คุยกับทีมงานแล้วว่าจะตั้งกองทุนขึ้นมา อาจจะไม่ได้ใหญ่นัก หรือมีเงินมากมาย แต่เราจะเข้าไปดูแล บรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่พ่อแม่ต้องเสียชีวิตเพราะโควิด” นพ.ทศพรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image