โควิดพันธุ์เดลต้ายังแรง! เชื้อกระจาย 72 จว. เบต้าโผล่ ‘บึงกาฬ’ พบแล้ว 5 ราย
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯ สธ. ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ได้ติดตามเฝ้าระวังพบว่า แนวโน้มในภาพรวมของประเทศ จากข้อมูลการเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม 2564 จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,206 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จำนวน 2,215 ราย คิดเป็น ร้อยละ 69.1 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนสายพันธุ์แอลฟา (อังกฤษ) พบจำนวน 905 ราย ร้อยละ 28.2 และสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) จำนวน 86 ราย ร้อยละ 2.7
โดยพบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากทั้งหมดจำนวน 1,273 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า จำนวน 1,053 ราย ร้อยละ 82.7 สายพันธุ์แอลฟา จำนวน 220 ราย ร้อยละ 17.3 ส่วนสายพันธุ์เบต้า ไม่พบผู้ติดเชื้อ
“ส่วนภูมิภาคพบผู้ติดเชื้อจากทั้งหมดจำนวน 1,933 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า 1,162 ราย ร้อยละ 60.2 สายพันธุ์แอลฟา 685 ราย ร้อยละ 35.4 และสายพันธุ์เบต้า 86 ราย ร้อยละ 4.4 โดยสายพันธุ์เดลต้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และขณะนี้พบแล้ว 72 จังหวัด ส่วนสายพันธุ์แอลฟา และสายพันธุ์เบต้ามีแนวโน้มสัดส่วนลดลง โดยสายพันธุ์เบต้าส่วนใหญ่ยังพบในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุดที่ จ.นราธิวาส และมีจำนวนประปรายในจ.ปัตตานี จ.สตูล จ.ตรัง จ.กระบี่ จ.สุราษฏร์ธานี และมีพบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.บึงกาฬ สำหรับสายพันธุ์เบต้าที่พบที่ จ.บึงกาฬ ที่ผ่านมาพบ 4 ราย สัปดาห์นี้ พบอีก 1 ราย เป็นญาติกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้ดำเนินการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง” นพ.ศุภกิจ กล่าว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ข้อมูลการเฝ้าระวังทั้งประเทศระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 ถึง วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 พบสายพันธุ์แอลฟา จำนวน 13,311 ราย ร้อยละ 61.18 สายพันธุ์เดลต้า จำนวน 7,977 ราย ร้อยละ 36.67 และสายพันธุ์เบต้า จำนวน 468 ราย ร้อยละ 2.15 ส่วนการติดเชื้อร่วม 2 สายพันธุ์ (Mix infection) ขณะนี้ยังไม่พบรายใหม่เพิ่มแต่อย่างใด
