ผอ.ศูนย์บางซื่อฯ เผยยกเลิกคิวทุจริตกว่า 7 พันราย ชี้เกิดจากคนในรู้ระบบ แอบสอดข้อมูลจองคิว

ผอ.ศูนย์บางซื่อฯ เผยยกเลิกคิวทุจริตกว่า 7 พันราย ชี้เกิดจากคนในรู้ระบบ แอบสอดข้อมูลจองคิว ยันไม่เกี่ยวกับ “แฮกระบบทรู”

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ แถลงข่าวประเด็นการทุจริตลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ทางศูนย์เริ่มได้เบาะแสมาเกือบ 20 วันแล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ประกอบกับก่อนหน้านี้ช่วงที่เริ่มเปิดศูนย์ใหม่ๆ เดือน มิ.ย.64 ก็เคยมีกระบวนการคล้ายกัน แต่ไม่ใช่เชิงดิจิทัล ซึ่งเป็นการทำโดยผู้ที่สมัครเข้ามาเป็นจิตอาสา แล้วพาคนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในกรณีนี้มีไม่มาก แรกๆ เป็นการพาญาติมาแต่หลังๆ ก็เป็นการพาผู้อื่นมาเพิ่มเป็นวันละ 10-20 คน เราจึงดำเนินการยกเลิกการสมัครจิตอาสาที่สมัครเข้ามาเอง ให้เหลือเพียงจิตอาสาที่มาจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ และจิตอาสาที่เครือข่ายมือถือ 4 ข่าย ได้จ้างมาช่วยเหลืองานที่ศูนย์ฯ

พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ทุจริตจำนวนมาก มีความผิดปกติของการนัดลงทะเบียนฉีดวัคซีนล่วงหน้าเข้าระบบเป็น 10,000 คน เนื่องจากทางศูนย์ฯ มีการเก็บข้อมูลรายวันและรายงานผลออกมา และมีการคาดการณ์ไปข้างหน้าเพื่อดูภาระงานในอนาคต ทำให้เราทราบว่าจะมีการนัดคิวล่วงหน้าอยู่เท่าไหร่ โดยเราทราบความผิดปกติวันแรก ในวันที่ 18 ก.ค.64 พบใน 1.จำนวนการนัดล่วงหน้านอกเหนือที่เจ้าหน้าที่อัพโหลดข้อมูลไปจำนวนมาก โดยเฉพาะวันที่ 28-31 ก.ค.64 วันละ 2,000 คน 2.การอัพโหลดเกิดขึ้นในเวลาที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำงานแล้ว ด้วยช่วงวันที่ 18 ก.ค. เราเริ่มเปิดวอล์ก-อิน (Walk in) ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ทำให้เราลดการนัดแบบองค์กร จากเดิมวันละ 5-7 พันคน ก็เหลือเพียงกระทรวงการต่างประเทศ ที่นัดมาฉีดล่วงหน้าวันละ 400 ราย ทางศูนย์ฯ จึงทำงานเสร็จเร็วขึ้น จากเดิมจะอัพโหลดข้อมูลการนัดล่วงหน้า ช่วง 22.00 น. ก็เปลี่ยนมาเป็นเวลา 17.00 น. แต่เราพบพิรุธ เพราะข้อมูลที่ผิดปกติยังอัพโหลดในช่วงเวลาเดิม จึงคาดว่า เป็นคนในที่รู้ระบบการทำงาน อัพโหลดข้อมูลเข้าไปในช่วงเวลาเดิม

พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า ข้อมูลที่อัพโหลดเข้าระบบช่วงวันที่ 18-28 ก.ค. มีการนัดที่ผิดปกติ เพิ่มขึ้นวันละ 10-50 คน โดยจะเพิ่มขึ้นมากในวันที่ 28-31 ก.ค. เป็น 4 วันสุดท้ายที่เราเปิดวอล์ก-อิน ในช่วงแรกเรายังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกลัวว่าจะไปแหวกหญ้าให้งูตื่น เราจึงให้มีเบาะแสชัดเจนก่อนว่ามีกระบวนการ มีการจ่ายเงิน ซึ่งเป็นในวันที่ 28 ก.ค. ที่พบการนัดผิดปกติมาถึง 2,000 คน โดยวันนั้นเราได้ดักคนที่เข้ามาตามนัดประมาณ 600 คน ซึ่งเข้าถึงพื้นที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนแล้ว หลังจากนั้นทางศูนย์ฯ ก็ได้ยกเลิกคิวนัดของ 2,000 คนดังกล่าวในวันนั้นทันที เพื่อบีบให้คนเหล่านี้แสดงตัวขอความช่วยเหลือ/ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ โดยได้จัดสถานที่ไว้เป็นการเฉพาะ ต่อมา ตนได้เข้าไปชี้แจง/ขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มา ซึ่งข้อมูลของตัวการผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตในครั้งนี้ โดยสามารถรวบรวมผู้ทำนัดโดยทุจริตนี้ได้มากกว่า 300 คน เนื่องจากบางส่วนส่งสัญญาณให้คนอื่นหลบหนีไป ซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อไปอย่างยิ่ง โดยข้อมูลจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพมาหนคร การซื้อคิวนัดดังกล่าว มีทั้งซื้อเองผ่านไลน์ เพื่อนบอกต่อญาติ หรือนายจ้างซื้อให้ และมีการจ่ายเงินทั้งแบบเงินสด และการโอนเงินในอัตรา 400-1,200 บาทต่อคิว ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลรายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว จึงได้ให้นิติกรกรมการแพทย์เป็นผู้แทนในการดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจ สน.นพวงศ์ ในฐานะผู้เสียหายต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการจองทุจริตนี้พบว่าระหว่างวันที่ 19-27 ก.ค. มีประมาณ 700 คน และระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค. อีก 7,000 คน ซึ่งมูลค่าความเสียหายประมาณ 7 ล้านบาท ทั้งนี้ เราได้ยกเลิกคิวนัดทั้งหมดแล้ว

พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นการกระทำจากคนใน ไม่ใช่การแฮก หรือเจาะข้อมูลระบบเครือข่ายมือถือทรู ช่องโหว่ที่พบคาดว่า เนื่องจากระยะแรกที่เปิดลงทะเบียนล่วงหน้า ทางศูนย์ฯ จะให้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ของกรมการแพทย์ และสถาบันโรคผิวหนังในการดำเนินการแก้ไข/เพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวประมาณ 10 ท่านเท่านั้น แต่ระยะหลังที่มีการเปิดวอล์ก-อิน สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครภภ์ในระหว่างวันที่ 18 ก.ค. เป็นต้นมา ทำให้จำเป็นต้องเปิดสิทธิให้จิตอาสาที่มาทำหน้าที่ในส่วนการลงทะเบียนที่มีอยู่มากกว่า 200 จุดสามารถเพิ่ม/แก้ไขข้อมูลของผู้รับบริการได้ทั้งหมด โดยมีจิตอาสาหมุนเวียนและได้รับสิทธิในการดำเนินการดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนเกิดช่องทางให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นได้

Advertisement

“จิตอาสา 98% ไม่มีปัญหา เป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ พร้อมช่วยเหลือและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และมีเพียงแค่ 2% ที่เป็นแบบนี้ และไม่เกี่ยวข้องกับค่ายมือทรู เนื่องจากกลุ่มคนที่ทำพฤติกรรมนี้เป็นเพียงลูกจ้างของค่ายมือถือที่เข้ามาช่วยงานและยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำผิด เพราะต้องสอบสวนหาตัวใหญ่กว่านี้ คนที่ทำพฤติกรรมนี้ต้องเข้าใจและรู้ระบบการทำงาน อย่างไรก็ตาม พบว่าความผิดปกตินี้ เกิดขึ้นใน 19 ยูสเซอร์ โดย 11 ยูสเซอร์ มีการนัดที่ผิดปกติ และมีความผิดปกติหนักใน 4 ยูสเซอร์ มีอัพโหลดข้อมูลสิทธิของคนฉีด มากว่า 400-500 คน ต่อวัน พฤติกรรมนี้จะมีการนัดหมายให้เข้ามาเฉพาะประตู 4 เท่านั้น ซึ่งเป็นของค่ายมือถือ และหากมีใครสอบถามก็ให้ตอบเหมือนกันทั้งหมด ที่ผ่านมาศูนย์ฉีดไม่เคยพบปัญหา เริ่มพบปัญหาเมื่อมีการฉีดแบบวอล์กอิน กลายเป็นช่วงโหว่ คาดว่าไม่นานตำรวจจะสามารถจับตัวผู้บงการได้ และสาวถึงกระบวนการ เพราะมีไอพีแอดเดรส และ 5 บัญชีที่เป็นการโอนเงิน สามารถสอบเส้นทางการเงินได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ การป้องกันและปิดช่องโหว่ของข้อมูลได้ สั่งการให้ปิดระบบและคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ 18.00 น ไม่เป็นระบบค้างไว้ข้ามคืน เพื่อป้องกันข้อมูล และผู้ที่เปลี่ยนแปลงข้อมูล จากนี้ จะไม่ใช่จิตอาสาอีกต่อไป แต่เป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ” พญ.มิ่งขวัญกล่าว

พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า ส่วนการทุจริตเรื่องวัคซีนจะมีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่เบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประมาณ 19 คน อิงจากจำนวนยูสเซอร์ ในขณะนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนจิตอาสาทั้ง 19 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เพื่อเป็นการแก้ไข/ป้องกันการเกิดทุจริตดังกล่าวในอนาคต
“ทางศูนย์ฯ ได้ยกเลิกนัดล่วงหน้าที่ผิดปกติซึ่งตรวจพบระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค. ทั้งหมด ยกเลิกยูเซอร์เดิมทั้งหมดและให้สิทธิในการเพิ่มเติม/แก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ภายในของกรมการแพทย์และสถาบันโรคผิวหนังเท่านั้น ปิดระบบทำการทั้งหมดในช่วงกลางคืนเพื่อป้องกันการ vpn เข้ามาทำการนอกเวลางาน ทางกรมการแพทย์และศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ขอขอบคุณจิตอาสาตลอดจนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 4 แห่ง (Operator) ที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด และพร้อมร่วมมือกันต่อไป โดยขอย้ำกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี และหากจะมีเบาะแสการทุจริตใดๆ ก็ตาม โปรดแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบเพื่อที่จะได้ดำเนินการจับกุมและแก้ไขต่อไปดังเช่นกรณีนี้ จะเป็นพระคุณยิ่ง” พญ.มิ่งขวัญกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image