อภ.ยันไม่ขาดฟาวิพาราเวียร์แน่นอน! เตรียมไว้เท่าตัว เดือนละ 100 ล้านเม็ด เร่งผลิตเอง ลดนำเข้า

อภ.ยันไม่ขาดฟาวิพาราเวียร์แน่นอน! เตรียมไว้เท่าตัว เดือนละ 100 ล้านเม็ด เร่งผลิตเอง ลดนำเข้า

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีการปรับให้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ให้ผู้ป่วยโควิด-19 เร็วขึ้น รวมถึงการใช้รักษาผู้ป่วยที่แยกกักที่บ้าน (Home Isolation) จึงมีความกังวลว่ายาจะเพียงพอต่อการความต้องการใช้หรือไม่ เพราะขณะนี้ตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับที่ 19,000-21,000 รายต่อวัน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า อภ.ได้รับมอบหมายจาก สธ.ว่าให้จัดหายาฟาวิพิราเวียร์ ใน 3 เดือนนี้ ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.64 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 100 ล้านเม็ด ซึ่งเป็นการคำนวณปริมาณการใช้ยาผู้ป่วยโควิด 1 รายต้องใช้ 50 เม็ด คาดการณ์จากตัวเลขติดเชื้อใหม่วันละ 3.3 หมื่นรายแล้วได้รับยาทุกราย จะต้องใช้ยาทั้งหมดประมาณเดือนละ 50 ล้านเม็ด ดังนั้นจัดหาเดือนละ 100 ล้านเม็ดก็ถือว่าค่อนข้างเพียงพอ แต่ทางองค์การฯ ได้สั่งซื้อไว้สำหรับเดือนสิงหาคม เผื่อไว้เป็น 120 ล้านเม็ด จากอินเดีย 80 ล้านเม็ด ญี่ปุ่น 40 ล้านเม็ด และองค์การฯ ผลิตได้เอง 2.5 ล้านเม็ด โดยต้องย้ำว่าทุกโรงงานผลิตจะต้องผ่านการทดสอบชีวสมมูลในมนุษย์ (Biowaiver: BE) ก่อน เราจะไม่เอายาที่ปั๊มสำเร็จ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคนไทย ปัจจุบันเราใช้ยาเฉลี่ยวันละ 8 แสนเม็ด ดังนั้น 3 ล้านเม็ดใช้ 3-4 วันก็หมดแล้ว เราจึงต้องเร่งรัดนำเข้ามาทุกสัปดาห์ มาเกือบทุกวัน เช่นวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาก็เข้ามาแล้ว 5.3 ล้าน คืนนี้มาอีก 3 ล้านโดส และจะเข้ามาอีกวันที่ 12 และ 14 สิงหาคม ต่อเนื่องไป ของมาแน่นอน เราเซ็นสัญญาซื้อแล้วแต่ขึ้นอยู่กับการเร่งรัดเที่ยวบิน เราก็ให้เขาหาเครื่องที่มีเที่ยวบินแน่นอนส่งมาให้เรา อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (10 สิงหาคม) องค์การฯ ก็ได้เชิญผู้ผลิตทุกรายเข้าประชุม เพื่อสรุปแผนการส่งและเจรจาขอให้ส่งมาเป็นล็อตใหญ่

Advertisement

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ อภ.ผลิตเอง ขณะนี้ได้สั่งสารตั้งต้นแล้วจำนวนมาก โดยเดือน ก.ย. จะขยายการผลิตไปที่โรงงานผลิตยารังสิต 1 อภ. ตั้งเป้าไว้ว่าเดือน ต.ค. จะผลิตได้ 40-50 ล้านเม็ดหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้จากที่ สธ. มอบหมายให้จัดหายาเดือนละ 100 ล้านเม็ด ทางอภ.ก็หาวัตถุดิบ สารตั้งต้นมาผลิตให้ได้เดือนละ 100 ล้านโดส หากได้ตามเป้าก็อาจไม่ต้องนำเข้าแล้ว และยาที่อภ. ผลิตราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ตกเม็ดละ 16 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาที่นำเข้ามาก ระหว่างนี้ เราก็รอการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) ในการผลิตขวดบรรจุ 50 เม็ด สำหรับผู้ป่วย 1 ราย จากเดิมที่บรรจุแผงละ 10 เม็ด

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเบิกจ่ายยามีความล่าช้าหรือไม่ ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ออกมาระบุว่าไม่มียาฟาวิพิราเวียร์ นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า อภ. มีหน้าที่จัดหาและกระจายตามคำสั่งของ สธ. ที่มีการประชุม EOC ทุกวันเพื่อสำรวจความต้องการใช้ยาจากแต่ละเขตสุขภาพที่ 1-12 และกรุงเทพมหานคร ดังนั้น อภ.ไม่มีหน้าที่จัดส่งในแต่ละจุด

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม ได้จัดหายาแรมเดซิเวีย (Remdesivir) เป็น 2 แสนขวด และจะพิจารณาจัดหาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอตามเกณฑ์การรักษาใหม่ โดยยาเรมเดซิเวียร์นั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาฉีดให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ผู้มีปัญหาในการดูดซึมยา ผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมอย่างรุนแรง  ผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้

Advertisement

“ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งหมด จะมีจัดสรรให้กับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) โดยกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง ผ่านระบบการบริหารคลังสินค้า หรือ VMI  (Vender Management Inventory) ของ อภ. และ อภ.เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่  ซึ่งหลังจากนั้น หน่วยงานแม่ข่ายจะทำการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป” นพ.วิฑูรย์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image