โคราชตัดวงจรคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปสุกร ระดมตรวจเชื้อเชิงรุก กักตัวเสี่ยงสูง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.นครราชสีมา นายแพทย์ชาญชัย บุญอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 180 ราย สอบสวนโรคเป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 46 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางมารักษา 11 ราย และการสัมผัสผู้ป่วย 134 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 20,048 ราย รักษาหาย 15,180 ราย ยังรักษาอยู่ 4,730 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 138 ราย
กรณีคลัสเตอร์บริษัท ปึ่งหงี่เชียง จำกัด สามแยกปักธงชัย เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา โรงงานแปรรูปสุกรชื่อดังและเป็นยอดของฝากโคราช สังคมให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไทม์ไลน์ วันที่ 23 สิงหาคม ผู้ป่วยรายที่ 19,614 และ 19,617 เป็นสามีภรรยาและอาศัยอยู่บ้านคนชุม ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง ซึ่งในละแวกใกล้เคียงมีผู้ป่วยหลายราย โรงงานจึงให้ทั้งลูกจ้างทั้ง 2 คน หยุดงานก่อนสืบสวนโรคไม่พบประวัติการสัมผัสผู้ป่วยในพื้นที่แต่อย่างใด จึงให้กลับเข้ามาทำงานตามปกติ โดยให้แยกโต๊ะทำงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
วันที่ 28 ส.ค. ระดมเชิงรุกตรวจ ATK ลูกจ้างแผนกผลิตหมูยอทั้งหมด 75 ราย พบเชื้อ 14 ราย ได้นำไปรักษาทันที ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงนำเข้าสถานที่กักตัวที่โรงแรมออร์คิดโคราชของโรงงาน กำหนดพักห้องละ 1 คน และให้การดูแลรักษาตามมาตรการสาธารณสุขส่วนโรงงาน ได้ปิดแผนกหมูยอ จ้างบริษัทเอกชนทำความสะอาด พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้ง ทน.นครราชสีมา ลงพื้นที่สอบสวนโรค ทีม สสจ.นครราชสีมา กำหนดมาตรการและข้อปฏิบัติการควบคุมโรค ทั้งนี้ถือเป็นโมเดลที่เป็นตัวอย่างการตัดวงจรการแพร่ระบาดได้มีประสิทธิภาพ เมื่อพบผู้ป่วยมีการแจ้งข้อมูล เพื่อแยกกลุ่มชัดเจนและนำไปสู่กระบวนการรักษาและกักตัว
