เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ… หรือภาษีลาภลอย กำหนดเพดานไว้ไม่ให้เกิน 5% ของฐานภาษี ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณา จากนั้นเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อออกมาบังคับใช้ต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปี 2562 วันนี้ มันนี่ทิป มีข้อมูลเกี่ยวกับภาษีลาภลอย จากห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาฝากกันค่ะ
สำหรับ ภาษีลาภลอย หรือ Windfall Gain Tax ภาครัฐจะจัดเก็บเพื่อนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่ต้องใช้เงินในการลงทุนเป็นจำนวนมากต่อไป ปัจจุบันมีการบังคับใช้ในต่างประเทศนานแล้ว ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส โปแลนด์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ขอบเขต พื้นที่ที่มีโครงการพัฒนาของรัฐ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โครงการท่าเรือ ทางด่วนพิเศษ สนามบิน เป็นต้น โดยมีพื้นที่จัดเก็บภาษีในรัศมีที่กำหนดซึ่งผู้ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี คือ ผู้ขายที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินเชิงพาณิชย์มูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของห้องชุดรอจำหน่าย ซึ่งอยู่รอบพื้นที่ที่มีโครงการพัฒนาของรัฐ
รูปแบบการจัดเก็บภาษี เก็บระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจัดเก็บจากการขายหรือเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือห้องชุดทุกครั้ง ซึ่งทางกรมที่ดินจะเป็นผู้จัดเก็บ ส่วนเก็บเมื่อดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จแล้ว ซึ่งจะเก็บจากที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท โดยจัดเก็บจากห้องชุดของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รอการจำหน่าย ซึ่งจะจัดเก็บในปีถัดจากปีที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ จัดเก็บเพียงครั้งเดียว ส่วนนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าของพื้นที่เป็นผู้จัดเก็บ
ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีจะมีผลเฉพาะกับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่เท่านั้น ไม่มีการจัดเก็บภาษีย้อนหลังกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้ประโยชน์จากโครงการของรัฐที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ มีข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษี กรณีที่ดินที่ใช้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และที่ดินทำเกษตรกรรมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนจำนวนมากด้วยค่ะ
กระปุกหมู
