“หนี้” หนึ่งคำสั้นๆ ง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกซึ้ง ที่ได้ยินเมื่อไหร่เป็นต้องถอนหายใจเฮือก ถ้าทิ้งตัวได้ก็อยากจะทิ้งลงตรงนั้น และถึงแม้จะเป็นคำที่จดจำง่าย แต่ก็ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ วันนี้มันนี่ทิป จึงได้นำวิธีบริหารหนี้มาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นเลย เราต้องรู้จักยอมรับความจริง โศกเศร้าได้แต่อย่านาน เพราะมันไม่ได้ทำให้ยอดหนี้ลดลง ในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มีโอกาสที่จะหมดไป ทำใจยอมรับ และมาตั้งเป้าหมายให้หนี้ที่มีอยู่ลดลงไปเรื่อยๆ ดีกว่า ในช่วงแรกอาจจะยากหน่อย เพราะจะมีความคิดหลายอย่างเข้ามาในหัว เช่น ทำไมหนี้เยอะจัง จะใช้หมด เหรอ
หากผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ก็เหมือนเราได้เริ่มใช้หนี้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะเมื่อใจเราพร้อมก็จะส่งผ่านไปทางร่างกายให้ลุกขึ้นสู้ได้แบบสบายๆ
ต่อมาก็มาทำความรู้จักหนี้ของตัวเอง เริ่มจากเขียนสรุปยอดหนี้จากสารพัดใบแจ้งหนี้ให้ออกมาเป็นการสรุปยอดหนี้ อาจจะเขียนเป็นตาราง หรือแยกเป็นหมวดๆ ว่ามาจากตัวไหนบ้าง เช่น หนี้รถ หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต ครบกำหนดชำระวันไหน จำนวนเท่าไหร่ เงื่อนไขในการชำระหนี้เป็นอย่างไร ฯลฯ เพราะจะทำให้เราเห็นภาพรวมของหนี้ได้อย่างชัดเจนและจะทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
หลังจากนั้นเขียนทางเลือกและลงมือทำ เขียนทางเลือกของตัวเองว่าจะมีเงินส่วนไหนมาชำระหนี้ได้บ้าง เช่น ประหยัด ทำงานให้มากขึ้น ยืมคนรู้จัก ขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ และรวบรวมข้อมูลไปเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายเพื่อช่วยกันหาทางออก รักษาเครดิตที่ดีของตนเองเอาไว้โดยการชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพราะหากเราจำเป็นที่จะต้องกู้เงินอีกภายภาคหน้าจะทำให้กู้ผ่านได้ง่ายขึ้น
ซึ่งการปล่อยสินเชื่อของธนาคารว่าจะให้หรือไม่นั้น นอกจากดูหลักฐานของลูกหนี้แล้ว ธนาคารยังต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าให้เงินกู้ไปแล้วจะได้หนี้คืนทั้งหมดไหม โดยการดูวินัยทางการเงินจากประวัติการชำระหนี้ของเราประกอบการตัดสินใจว่า อดีตจ่ายหนี้ตรงเวลาเป๊ะ จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง หรือเบี้ยวหนี้ โดยประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดจะอยู่ในข้อมูลเครดิต 3 ปี ถ้าเคยเสียเครดิตมาก่อนก็จะทำให้โอกาสในการกู้ยืมน้อยลงด้วย
สิ่งสำคัญที่ห้ามลืม คือ เราจะต้องมีวินัยในการชำระหนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างเครดิตที่ดีต่อไป และไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีกนะคะ
กระปุกหมู
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
