นิสสัน’จีที-อาร์’ทุบสถิติกินเนสส์ฯ ดริฟต์ 30 องศา-เร็วสุด 304.96 กม./ชม.

ซามีร์เชอร์ฟาน (Samir Cherfan) กรรมการผู้จัดการ นิสสันตะวันออกกลาง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ รถยนต์นิสสัน จีที-อาร์ (Nissan GT-R) ได้ทำลายสถิติโลกกินเนสส์ของการดริฟต์ด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่เคยทำมา โดยนิสสัน จีที-อาร์ (Nissan GT-R) สามารถทำลายสถิติโลก นี้ได้รับการปรับแต่งเครื่องและช่วงล่างเป็นพิเศษ ทำให้เข้าโค้งได้ดีเยี่ยม ด้วยความเร็วที่สูงถึง 304.96 กม./ชม. และดริฟต์ได้ถึง 30 องศา จากการขับขี่ของ มาซาโตะ คาวาบาตะ (Masato Kawabata) นักดริฟต์รถชาวญี่ปุ่นซึ่งคว้าแชมป์ในครั้งนี้และยังเป็นแชมป์จากการแข่งขันดริฟต์ของประเทศญี่ปุ่นในรายการ (Japanese drifting series) โดยการทำสถิติใหม่นี้เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติฟูไจราห์ (Fujairah International Airport) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

นิสสัน2

สำหรับนิสสัน จีที-อาร์ คันที่สร้างสถิติโลกใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมงานจากนิสสัน มอเตอร์สปอร์ต หรือนิสโม (Nismo) มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์สมรรถนะสูง ปรับแต่งรถคันนี้ให้มีกำลังถึง 1,380 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อหลังทั้งหมด นอกจากนี้ยังอาศัยความเชี่ยวชาญด้านระบบช่วงล่างอย่าง เกร็ดดี้ ทรัสต์ (GReddy TRUST) ช่วยเตรียมความพร้อมและทำการทดสอบอีกหลายครั้งจนมั่นใจในประสิทธิภาพของรถ และมีการทดสอบจาก มร.คาวาบาตะที่สนามฟูจิ สปีดเวย์ (Fuji Speedway) อีกด้วย ทั้งหมดทำให้รถจีที-อาร์ ถูกปรับ มีความสุดยอดทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียรทั้งยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขันท้าทายเช่นนี้

ซามีร์เชอร์ฟานกล่าวว่า นิสสันยังคงท้าทายในการทำลายสถิติโลกกินเนสส์อีกครั้ง และสร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งที่ 5 ในตะวันออกกลาง นิสสัน จีที-อาร์เป็นสุดยอดซุปเปอร์คาร์ทำเวลาได้ดีเยี่ยมและมีสมรรถนะเป็นเลิศ พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเหนือใครด้วยการเอาชนะคู่แข่งทั้งหมด ชัยชนะจากการแข่งขันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นเรื่องภาคภูมิของเรา การร่วมกับแบรนด์นิสโมเพื่อทำลายสถิติโลกทำได้ยากลำบากครั้งนี้ ถือได้ว่าสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก

Advertisement

นิสสัน3

การแข่งขันดริฟต์ครั้งนี้เลือกใช้สนามบินนานาชาติฟูไจราห์ เพราะมีทางวิ่งของเครื่องบินหรือรันเวย์ยาวถึง 3 กม. ถือว่ามากพอสำหรับการแข่งขัน นิสสันเองต้องการดริฟต์รถด้วยความเร็วกว่า 300 กม./ชม. จึงเลือกนักแข่งที่มากด้วยฝีมือและประสบการณ์อย่างคาวาบาตะ เป็นผู้นำในการแข่งขันดริฟต์ของประเทศญี่ปุ่น

โมฮัดเหม็ดอัล ซาลามี ประธานสนามบินนานาชาติฟูไจราห์ กล่าวว่า เรายินดีมากที่ได้มีโอกาสจัดงานน่าตื่นเต้นเช่นนี้ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มีชื่อในการทำสถิติโลกกินเนสส์ได้อีกครั้ง ความยิ่งใหญ่นี้สร้างให้ผู้คนและบริษัทมากมายสร้างประวัติศาสตร์ชน่าจดจำ เจ้าหน้าที่ของสนามบินนานาชาติฟูไจราห์ต่างช่วยอำนวยความสะดวกในการทำลายสถิติครั้งนี้ พร้อมการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

Advertisement

นิสสัน4

“สนามบินนานาชาติฟูไจราห์เป็นสถานที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับความพยายามทำลายสถิติ เรายังได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากทุกระดับชั้น เป็นเรื่องมีความหมายอย่างยิ่ง นอกจากนี้เราต้องจัดเวิร์กช็อปในโรงเก็บเครื่องบินแห่งหนึ่งในสนามบินของเรา และมีเวลาแค่ 5 วันในการเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ทั้งซุปเปอร์คาร์อย่างนิสสัน จีที-อาร์ ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ อะไหล่ ยาง และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องตรวจสอบและทำตามกระบวนการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากทุกคนที่สนามบินนานาชาติฟูไจราห์ไม่ทุ่มเทกำลังเพื่อช่วยเหลือเราเต็มที่แล้ว เราคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง” โมฮัดเหม็ดอัล ซาลามีกล่าว

โมฮัดเหม็ดอัลฟาลาซาย จากสถาบันสอนดริฟท์รถโปรดริฟต์อคาเดมี (The Prodrift Academy UAE) กล่าวว่า โปรดริฟต์อคาเดมีร่วมกับนิสสันประจำภาคพื้นตะวันออกกลางภูมิใจเป็นส่วนหนึ่งของสถิติโลกกินเนสส์ด้วยการดริฟต์ได้เร็วที่สุด ความขยันขันแข็งและการอุทิศตนของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการทำสถิติใหม่ได้ นิสสันจะยังครองตำแหน่งผู้นำการดริฟต์รถในตะวันออกกลางต่อไปโดยได้รับการอบรมจากหลักสูตรของโปรดริฟต์อคาเดมี

นิสสัน5

ช่างเทคนิคของเกร็ดดี้ ทรัสต์ (GReddy TRUST) เตรียมความพร้อมรถยนต์นิสสัน จีที-อาร์ รุ่นปี 2016 ที่สนามแข่งในช่วง 3 วันก่อนแข่ง และมีโอกาสเพียง 3 ครั้งในการทำลายสถิติตามแนวทางที่สถิติโลกกินเนสส์ระบุไว้อย่างเคร่งครัด การดำเนินการครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่หลากหลายฝ่ายอาทิ โปรดริฟต์อคาเดมี เรคาโร (Recaro) สำหรับที่นั่งคนขับ เรย์ส (RAYS) สำหรับล้ออัลลอยน้ำหนักเบา และยางโตโย (Toyo Tires) สำหรับยางที่ใช้ดริฟต์ เราออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการนี้ ผู้สนใจชมการขับขี่สร้างสถิติโลกครั้งนี้รับชมได้ที่

YouTube Link: https://www.youtube.com/watch?v=KTEITmTomII

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image