กิจกรรมครั้งสำคัญของค่ายปอร์เช่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อแผนก ปอร์เช่ คลาสสิก ได้ปลุกตำนานยนตรกรรมที่นักสะสมรถยนต์บางคนปรารถนา จะได้ครอบครองไว้ในคอลเล็กชั่น
นับตั้งแต่ ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ รุ่นสุดท้าย ติดตั้งเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ (air-cooled engine) ระยะเวลากว่า 20 ปี หลังยุติการผลิตรุ่นดังกล่าว
ในที่สุดปอร์เช่ก็กลับมาเริ่มงานออกแบบอีกครั้ง ด้วยรุ่นพิเศษตัวถังภายนอกของปอร์เช่ 911 เทอร์โบ ในรหัส 993 มีพื้นฐานมาจากรุ่นปกติ แต่ตัวถังภายนอกโดดเด่นด้วยสีเหลืองทอง (Golden Yellow Metallic) สีแบบเดียวกับปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส เอ็กซ์คลูซีฟ ซีรีส์ รุ่นปี 2018 ล้ออัลลอยสีดำตัดขอบเน้นด้วยเหลืองทองเพิ่มความคมเข้ม
ส่วนภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งและชิ้นส่วนต่างๆ ล้วนตกแต่งด้วยสีดำและเหลืองทองเช่นเดียวกัน
สำหรับชุดแต่งตัวถังภายนอกเพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยว และเสริมความสปอร์ตด้วยช่องดักอากาศด้านข้าง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในรุ่น 993 เทอร์โบ เอส และเป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับปอร์เช่ 911 เทอร์โบ รุ่นปี 1998 ด้วยพละกำลังกว่า 450 แรงม้า
ยนตรกรรมสปอร์ตคลาสสิกคันนี้ กำลังจะได้รับโอกาสร่วมลงสนาม ลากูนา เซกา (Laguna Seca) ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบการเปิดตัวครั้งแรกของโลกระหว่างมหกรรมความเร็ว ปอร์เช่ เรนน์สปอร์ต รียูเนียน (Porsche Rennsport Reunion) ในวันที่ 27 กันยายน 2018 นี้
สมบัติล้ำค่าของนักสะสมรถยนต์ชิ้นนี้จะถูกจำกัดให้วิ่งบนสนามแข่งเท่านั้น หลังจากนั้นรถคันนี้จะถูกนำออกประมูลโดยอาร์เอ็ม ซอเดอบีส์ ณ ปอร์เช่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ เมืองแอตแลนตา ในวันที่ 27 ตุลาคม 2018 รายได้จากการประมูลจะบริจาคให้แก่มูลนิธิ เฟอร์รี ปอร์เช่ (Ferry Porsche Foundation) องค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปี ปอร์เช่ สปอร์ต คาร์
เดทเลฟ วอน พลาเตน สมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้ดูแลรับผิดชอบ ส่วนงานขายและการตลาดของปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า โปรเจ็กต์ โกลด์ คือโครงการที่แสดงให้เห็นความสามารถของแผนกปอร์เช่ คลาสสิกในการรังสรรค์ผลงาน และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของกลยุทธ์เริ่มต้นเดินหน้าพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่ในชื่อว่า ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขององค์กร เรื่องราวความเป็นมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็นอีกสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ปอร์เช่ 993 สีเหลืองทองคันนี้คือเครื่องหมายยืนยันว่าเรายังคงมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งต่อรากเหง้าขององค์กรไม่เคยเปลี่ยนแปลง
โปรเจ็กต์ โกลด์ เป็นอีกหนึ่งผลงานสะท้อนความคลาสสิกของยนตรกรรมสปอร์ตจากปอร์เช่ ตอบรับกับการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 70 ปี ปอร์เช่ สปอร์ต คาร์ พร้อมกับวาระพิเศษนี้ คือกำหนดการเตรียมเผยโฉมต่อสายตาสาธารณชนทั่วโลกของไทคานน์ รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่อีกด้วย
บรรดาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของปอร์เช่ได้ร่วมมือกันเสนอแนวความคิดในการออกแบบโครงสร้าง โดยอาศัยพื้นฐานจากรูปทรงของตัวถังรุ่น 993 ผสมผสานระหว่างความ คลาสสิกและนวัตกรรมล้ำสมัย
วิศวกรยังได้คัดเลือกอะไหล่แท้คุณภาพสูงกว่า 6,500 รายการ สำหรับรองรับความต้องการในการแปลงโฉมยนตกรรมสปอร์ต
รุ่น 993 เป็นพิเศษ จัดเตรียมอะไหล่ทั้งหมดกว่า 52,000 รายการ เพื่อการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงรถยนต์ปอร์เช่รุ่นคลาสสิกให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
โครงสร้างตัวถังสุดคลาสสิก ใช้เวลาในการเตรียมการประมาณ 1 ปีครึ่ง
เริ่มต้นด้วยการชุบกันสนิม และผ่านการพ่นสีโดยกรรมวิธีทันสมัย แบบเดียวกับที่ใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์รุ่นปัจจุบัน
ผลงานคลาสสิกนี้ ได้รับการประกอบและปรับแต่งอย่างประณีตบรรจงจากวิศวกรผู้ชำนาญการพิเศษในส่วนงาน ปอร์เช่ เรสโตเรชัน เวิร์กช็อป (Porsche restoration workshop) ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท
ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ ขนาดความจุ 3.6 ลิตร 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศทวินเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 450 แรงม้า ถ่ายทอดสมรรถนะเฉกเช่นเดียวกับในช่วงเวลาที่รถคันนี้ถือกำเนิดขึ้นจากสายการผลิตดั้งเดิม
ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์ธรรมดาหรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (all-wheel drive) ยังคงเป็นชิ้นส่วนอะไหล่แท้ หมายเลขตัวถังถูกประทับด้วยมือ ได้รับการเรียงลำดับต่อเนื่องจากปอร์เช่ 993 เทอร์โบคันสุดท้ายที่ออกจากสายการผลิตเมื่อปี 1998
การตกแต่งภายนอกและภายในห้องโดยสาร เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับแผนกพิเศษที่เคยรับบทบาทหน้าที่ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกอย่างปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอสเอ็กซ์ คลูซีฟ ซีรีส์ รุ่นปี 2018 มีจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น
ปอร์เช่ 993 ถอดแบบมาจากปอร์เช่ 911 รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นจากโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม ให้สมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยมในยุคสมัยนั้น
นอกจากนี้ สำหรับปอร์เช่ 911 เทอร์โบ รหัสตัวถัง 993 ยังเป็นปอร์เช่รุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์แบบทวินเทอร์โบ เพื่อให้มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นไปตามมาตรฐานมลภาวะในปี 1995
ตัวถังด้านหน้าวางตัวในระดับที่ต่ำกว่า ปอร์เช่ 911 รุ่นก่อนหน้า เป็นผลจากการปรับเปลี่ยนรูปทรงของโคมไฟหน้าจากวงกลมเป็นวงรี ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยลาย ฮอลโลว์-สโปก (Hollow-spoke) เป็นต้นแบบให้แก่รถยนต์รุ่นอื่นที่ติดตั้งล้อในลักษณะเดียวกัน
เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใน 911 เทอร์โบ และเครื่องยนต์สมรรถนะสูงระดับ 450 แรงม้า ได้รับการติดตั้งลงในปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 345 คันเท่านั้น
