ทดลองขับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ออนโรดสบาย ออฟโรดเอาอยู่ : อาร์ม สามย่าน

เปิดตัวไปแล้วกับ Mitsubishi Triton ใหม่ ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน จากนั้น Mitsubishi ได้เชิญสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รวมทดสอบการขับขี่ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ให้ได้เห็นถึงรูปร่างหน้าตาอย่างใกล้ชิด และสมรรถนะการขับขี่จริงในเบื้องต้น

สำหรับ Mitsubishi Triton ใหม่นี้ การเปลี่ยนแปลงหลักที่เห็นได้ชัดคือกระจังหน้า สไตล์ Dynamic Shield คล้าย กับ Mitsubishi Xpander ที่เพิ่งเปิดตัวไป ให้อารมณ์ค่อนข้างแข็งแรงดุดัน แต่ตำแหน่งไฟไม่เหมือนกัน ไฟหน้าของ Triton ยังอยู่ที่ด้านบน เป็นไฟโปรเจ็กเตอร์ LED ถูกยกให้สูงจากรุ่นก่อน เช่นเดียวกับไฟตัดหมอก ไฟหน้าเป็นระบบปิด-เปิดอัตโนมัติ มาพร้อมกับระบบปรับสูงต่ำอัตโนมัติด้วย นับเป็นรถกระบะค่ายญี่ปุ่นค่ายแรกที่ใส่ระบบนี้มา ส่วนด้านท้ายมาพร้อมไฟ LED ขนาดใหญ่ เป็นเส้นลากยาวคล้ายไฟท้าย Mitsubishi Pajero ส่วนตัวมองว่าดูสวยขึ้น ส่วนฝาปิด-เปิดด้านท้ายดีไซน์ค่อนข้างลงตัว แต่ยังไม่มีระบบผ่อนแรงเหมือนกระบะค่ายมะกัน มาพร้อม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60

ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Triton ใหม่ คอนโซลกลาง พวงมาลัย ให้ความรู้สึกถึงการใช้วัสดุที่ดีขึ้นในการประกอบ ดูหรูหรามากขึ้น เบาะนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หุ้มหนัง มีปุ่มกดเปิด-ปิด สั่งการในการดูกล้องรอบรถได้ ส่วนภาพก็แสดงที่จอกลาง คมชัดในระดับที่ดี ยังมี Paddle Shift สำหรับกดเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แต่จะยึดกับคอพวงมาลัยไม่หมุนตาม

ที่นั่งทุกตำแหน่งยังมีที่จับสำหรับขึ้นรถ ช่วยให้ขึ้น-ลงได้ง่ายขึ้น เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสารด้านหลัง พบว่าพื้นที่ว่างระหว่างเบาะนั่งหน้ากับขากว้างในระดับที่ดี ส่วนพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ ผู้เขียนสูงประมาณ 185 เซนติเมตร เหลือที่ว่างประมาณ 2 นิ้ว ก็ถือว่าใช้ได้ไม่อึดอัด เบาะนั่งเป็นเบาะหนังและวัสดุหนังสังเคราะห์ มีขอบตะเข็บเย็บด้าย บริเวณข้างประตูบุนิ่ม ให้ความรู้สึกที่ดี ส่วนอรรถประโยชน์การใช้งานนั้น บริเวณด้านหน้า ของแถวหลัง มีการออกแบบช่องวางโทรศัพท์พร้อมที่ช่องเสียบ USB 2 ช่อง มาให้ แอร์ด้านหน้าเป็นระบบแยกอัตโนมัติซ้ายขวา ส่วนด้านหลัง ระบบแอร์มีการออกแบบใหม่ มีช่องเป่าลมจากด้านบนสามารถเปิด-ปิดเร่งความแรงได้เพื่อให้อากาศมีการหมุนเวียน

Advertisement

ทางด้านขุมพลัง ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง Dohc 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 2442 ซีซี ตัวเดียวกับ Pajero Sport แรงม้า 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ความจุถังน้ำมันเครื่อง 75 ลิตร อัตราการกินน้ำมัน ตามมาตรฐานอยู่ที่ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร

มีการเปลี่ยนระบบเกียร์เป็น 6 สปีด พร้อม Sport mode มีปุ่มหมุนเปลี่ยนเกียร์ให้เลือกตามโหมดต่างๆ 4 โหมดในโหมดออฟโรดสามารถสามารถเลือกขับได้ทั้งขับบนทราย พื้นผิวขรุขระ หิน ดินลูกรัง มาพร้อม DIFF LOCK ที่เฟืองท้าย

มีระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย หรือ Cruise Control มาให้ด้วย แต่ยังเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่ระบบแปรผันอัตโนมัติตามรถคันหน้า

Advertisement

มีระบบการเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งรุนแรงรวดเร็ว มีระบบเตือนจุดอับสายตา หรือ BSW มีระบบเตือนขณะถอย หรือ RCTA เซ็นเซอร์กะระยะถอยจอด ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน หรือ LCA มีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ทั้งคู่หน้า ด้านข้าง หัวเข่าคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล หรือ ASTC ระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน

การทดสอบในวันจริงถูกจำกัดอยู่ใน Station การออกตัวข้างดี ช่วงล่างนุ่มนวล แต่อาจรับรู้ความรู้สึกเด้งจากด้านหลังได้นิดหน่อย แต่เมื่อไปเจอเนินเตี้ยๆ พื้นที่ขรุขระ พบว่าช่วงล่างซับแรงกระแทกอยู่ในระดับน่าพอใจ

ส่วนสถานีออฟโรด เป็นการทดลองระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นั่งไปกับ instructor ชาวญี่ปุ่น ทดลองขึ้นเนินจำลอง ชัน 30 องศา เพื่อดูแรงบิด การถ่ายน้ำหนักของล้อ ใช้รอบเครื่องยนต์ไม่ถึง 1,500 รอบ ก็สามารถไต่ไปด้านบนได้ ก่อนจะไปจอดหยุดนิ่งด้านบน แล้วค่อยๆ ปล่อยรถลงมาเพื่อทดสอบระบบการช่วยเหลือลงทางลาดชัน โดยไม่ต้องเหยียบเบรก หรือคันเร่ง รถก็ค่อยๆ ไหลลง ก่อนที่จะขับผ่านมุมทะแยงที่ ถูกวางไว้ทั้งซ้ายขวา 3 จุด แค่จับพวงมาลัยนิ่งๆ รถก็สามารถผ่านไปได้ ต่อมาคือสถานีทดสอบ Traction Control ที่จะทำให้ล้อลอยหนึ่งล้อ ดูการถ่ายกำลังไปยังล้ออื่นๆเพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรค

จากนั้นไปทดลองนั่งให้แชมป์แรลลี่ระดับโลกชาวญี่ปุ่นขับวน 1 รอบ เพื่อให้เห็นศักยภาพและสมรรถนะของรถ ที่สามารถควบคุมได้อย่างสมบุกสมบัน แม้กำลังเผชิญกับเส้นทางดินขรุขระ ด้วยความเร็วสูง ทั้งนี้ การทดสอบ ถูกควบคุมอยู่ในพื้นที่จำกัดอย่างปลอดภัย ไม่แนะนำให้ทำตาม

การทดลองขับ Mitsubishi Triton ครั้งนี้ มีเวลาให้น้อยมาก เพราะเป็นการทดสอบระดับนานาชาติ สำหรับผู้ที่สนใจขอแนะนำให้ไปลองขับด้วยตัวเองที่โชว์รูม

อาร์ม สามย่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image