| ที่มา | มติชนรายัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
อากาศที่ร้อนอบอ้าวในเวลานี้ไม่เพียงสร้างความหงุดหงิดให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลให้รถที่ใช้งานอยู่มีปัญหาได้ ดังนั้น จึงควรรับมือกับสภาพอากาศอย่างเหมาะสมและชาญฉลาด
ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางอีกด้วย
ด้วยความห่วงใยผู้ขับขี่ทุกคน บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอนำเสนอเคล็ดไม่ลับการรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนสุดขั้วมาฝากกัน
1.ตรวจเช็กและบำรุงรักษารถตามกำหนด
การขับขี่ทั้งทางใกล้และทางไกลท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ตัวรถยิ่งต้องทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้น จึงควรแน่ใจว่าตัวรถมีความสมบูรณ์พร้อมด้วยการเข้าตรวจเช็กระยะตามกำหนดเพื่อตรวจสอบสภาพยาง เบรก การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ระบบปรับอากาศหรือแอร์ ตลอดจนบรรดาสายพานต่างๆ
2.หลีกเลี่ยงการจอดกลางแจ้ง
การจอดรถกลางแดดที่แผดเผา ไม่เพียงทำให้สีตัวถังรถลดความเงางามเร็วกว่าที่ควรเท่านั้น แต่ยังทำให้ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมอีกด้วย ควรหาที่จอดในร่ม หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้แผ่นสะท้อนความร้อนปิดบังคอนโซลหน้า
3.เปิดกระจกหรือประตูก่อนสตาร์ตรถ
การเปิดกระจกหรือประตูระบายความร้อนก่อนสตาร์ต โดยเฉพาะเมื่อรถจอดอยู่กลางแจ้งจะช่วยให้ห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น
4.ปกป้องผู้โดยสารเด็ก และสวมแว่นกันแดด
แสงแดดที่เจิดจ้าอาจเป็นอันตรายต่อทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถึงแม้จะนั่งอยู่ในรถ แต่ถ้าเดินทางไกลควรทาครีมกันแดดป้องกันรังสียูวีโดยเฉพาะที่แขนทั้งสองข้าง ถ้ามีเด็กโดยสารมาด้วยที่เบาะหลังควรใช้ม่านบังแดดปกป้องผิวอันอ่อนโยน ขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่ควรสวมแว่นกันแดดขณะขับขี่เพื่อปกป้องดวงตาตลอดการเดินทาง และยังช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่
5.ทำความสะอาดกระจกรอบคันเพื่อทัศนวิสัยชัดเจน
ในช่วงหน้าร้อน แสงแดดช่วงเช้าตรู่หรือช่วงค่ำก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะกินเวลายาวนานกว่าปกติ แสงแดดจะส่องตรงมาที่กระจกหน้า ถ้ามีคราบฝุ่นติดหนาอาจทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่และก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น ควรทำความสะอาดกระจกหน้า รวมถึงกระจกรอบคันให้ใสสะอาดอยู่เสมอ
6.ระมัดระวังถ้ามีฝนตกอย่างไม่คาดคิด
บางครั้งอาจมีฝนหรือพายุฤดูร้อนโปรยปรายลงมาในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังเมื่อฝนเริ่มตกลงมาใหม่ๆ เพราะพื้นผิวถนนที่มีคราบสิ่งสกปรกเกาะอยู่มากมายโดยจะชะล้างออกและทำให้ถนนลื่นกว่าปกติ อุบัติเหตุร้ายแรงมักเกิดขึ้นเมื่อฝนเริ่มตกใหม่ๆ
7.ไม่ทิ้งเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดกลางแจ้งแม้แต่วินาทีเดียว
อุณหภูมิภายในรถที่จอดกลางแจ้งสามารถพุ่งทะยานสูงขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาทีถึงแม้จะเปิดกระจกแง้มไว้เล็กน้อยก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก ดังนั้น จึงไม่ควรทิ้งเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถแม้แต่วินาทีเดียว เพราะอาจทำให้เกิดภาวะฮีทสโตรกหรือความร้อนในร่างกายพุ่งสูงเกินไปจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
8.ขับขี่ด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย
สุดท้ายแล้ว การขับขี่ท่ามกลางอากาศร้อนให้เย็นสบายทั้งกายและใจคือความผ่อนคลายและต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสนุกเร้าใจในการขับขี่ได้
