ที่มา | คอลัมน์ คาร์ทิปส์ มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
แม้ว่า“การล้างห้องเครื่องรถยนต์”จะไม่จำเป็นเท่าใดนัก เพราะถูกออกแบบมาให้ทำงานได้แม้จะมีสิ่งสกปรกเข้ามาเกาะ แต่หลายคนก็อดรนทนเห็นความสกปรกในห้องเครื่องไม่ได้
ยานยนต์ “มติชน” มีข้อแนะนำการทำความสะอาดห้องเครื่องที่มีอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลากหลาย โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า ไม่ชอบน้ำ ทำให้การล้างห้องเครื่องเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะรถเก่า
หลักสำคัญในการล้างห้องเครื่องคือพยายามใช้น้ำให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้มีปัญหากับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งสนิม จึงใช้น้ำยาแบบโฟมทำความสะอาดห้องเครื่อง มีให้เลือกหลายยี่ห้อ
หลังจากได้น้ำยาทำความสะอาดมาแล้ว เตรียมอุปกรณ์ตัวประกอบมาให้พร้อม ได้แก่ โบลว์เออร์สำหรับเป่าไล่น้ำหลังล้างเสร็จ ฟองน้ำแบบไม่ต้องหนามาก แปรงสีฟันขนนุ่ม ถุงมือยาง ถุงพลาสติกใบเล็ก และผ้าเทปอีกม้วน
ถุงพลาสติกใบเล็ก และผ้าเทปเอาไว้หุ้มปิดอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าให้มิดชิด เช่น เซ็นเซอร์ ปลั๊กสายไฟ จานจ่าย และสายหัวเทียน
ทิ้งเครื่องยนต์ให้เย็นสนิทก่อน เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่แล้วมาเจอของเย็น ๆ จนบิดตัวหรือร้าว และไม่เป็นอันตรายกับมือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เพื่อรอให้เครื่องเย็นตัวตามธรรมชาติ
เตรียมถอดแบตเตอรี่เพราะเป็นแหล่งจ่ายกระแสไฟพร้อมจะชอร์ตได้ตลอดเวลา หากมีน้ำเข้าเป็นตัวกลางเชื่อมประสานระหว่างขั้วบวกและขั้วลบหลังจากนำแบตเตอรี่ออกแล้ว ให้หุ้มขั้วทั้ง 2 ด้วยถุงพลาสติกป้องกันไม่ให้น้ำขังอยู่ที่ขั้ว
หากต้องการถอดชิ้นส่วนต่างๆ อาจเลือกถอดกรองอากาศออก เพื่อทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ทั้งตัวหม้อกรองและบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด น้ำยาแบบโฟมจะพุ่งตรงเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการได้ทันที รอซัก 5 นาทีเพื่อให้น้ำยาชะล้างเอาคราบสิ่งสกปรกออกไป ถ้ายังไม่พอใจก็เอาฟองน้ำหรือแปรงสีฟันค่อยๆ ขัดถูไปเรื่อยๆ ตามซอกหลืบ จากนั้นก็ค่อยเอาน้ำล้างออก ถ้าก๊อกน้ำอยู่ไกลก็ใส่กระป๋องใบใหญ่ๆ แล้วเอาขวดน้ำตัดครึ่งเทก็ได้ แต่ถ้าก๊อกน้ำอยู่ใกล้ก็ใช้แรงดันต่ำค่อยๆ ล้างออก ห้ามเปิดน้ำแรงเด็ดขาด เพราะมีตัวเซ็นเซอร์และปลั๊กไฟอยู่บริเวณนั้น
เริ่มจากฝาครอบวาล์วกันก่อน เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนเห็นได้ชัดเจนเมื่อเปิดกระโปรง จากนั้นไปยังส่วนอื่นๆ ทั้งมุมหน้าซ้าย-ขวา ผนังห้องเครื่อง เสื้อสูบ ซุ้มล้อซ้าย-ขวา ถ้าเป็นบริเวณผนังห้องเครื่อง พอล้างด้วยน้ำแล้วจะดูด่างๆ ไม่ต้องตกใจ พอแห้งแล้วสีจะกลับมาเงาเหมือนเดิม
กรณีเป็นพื้นที่ค่อนข้างเปลือยโล่ง การทำความสะอาดก็จะง่าย แต่ถ้าเป็นบริเวณยากต่อการเข้าถึง คงจะต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะห้องเครื่องเต็มไปด้วยขอบคม อาจต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะนอกจากชิ้นส่วนที่มองเห็น ตอนเปิดฝากระโปรงแล้ว ต่ำลงไปยังมีคราบสกปรกเกาะอยู่อีกมาก ทั้งผนังห้องเครื่องด้านล่าง เสื้อเกียร์ด้านใน ยางแท่นเครื่อง-เกียร์และซับเฟรม
ล้างเสร็จแล้วถ้ามีโบลว์เออร์ก็นำมาเป่าตามซอก ป้องกันไม่ให้น้ำขังอยู่ตามจุดต่างๆ แต่ถ้าไม่มีก็ให้เอาผ้าคอยซับน้ำทิ้ง หรือจะใช้พวกน้ำมันอเนกประสงค์ไล่ฉีดตามจุดต่างๆ ก็ได้ เพราะน้ำมันเหล่านี้มีคุณสมบัติไล่ความชื้นอยู่แล้ว ตามด้วยการใส่แบตเตอรี่เข้าตามเดิม ส่วนขั้วก็ใส่บวกก่อน แล้วค่อยตามด้วยขั้วลบ นอกจากนี้ยังมีน้ำยาเคลือบเงาสำหรับชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะด้วย เอามาลงเลยก็ดี
หลังจากประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าที่แล้ว ลองสตาร์ตเครื่อง แต่ตอนเครื่องหมุนช่วงแรกๆ อาจมีเสียงบ้างไม่ต้องตกใจ เนื่องจากสายพานหน้าเครื่องโดนความชื้นจนเกิดเสียง พอน้ำเริ่มระเหยแห้งก็เงียบเป็นปกติ ติดเครื่องไว้สักพัก ลองเร่งเครื่องดู เพื่อเช็กดูว่าทุกระบบทำงานเป็นปกติหรือเปล่า เช่น เดินครบสูบ รอบเครื่องไม่สะดุด และพัดลมทำงาน
การล้างห้องเครื่องนอกจากความสะอาดแล้ว ยังช่วยให้ตรวจเช็กสภาพอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากที่มองไม่ค่อยเห็นเพราะคราบสกปรกบดบังอยู่