| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | นายพล |
| เผยแพร่ |
เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว นิว ซูซูกิ เซียส (New Suzuki Ciaz) รถยนต์นั่งซีดานรุ่นใหม่ มีโอกาสได้ทดลองขับรุ่นท็อป เมื่อลองเทียบกับราคาแล้วตอนนั้นรู้สึกเฉยๆ เพราะทั้งราคาและคุณภาพค่อนข้างใกล้เคียงกับคู่แข่ง
แต่เมื่อมีโอกาสได้ทดลองขับรุ่นรองท็อป คือรุ่น GL พบว่าคุ้มค่าคุ้มราคากว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
สำหรับ ซูซูกิ เซียส ชู 3 จุดเด่นในเรื่องดีไซน์ ห้องโดยสารกว้างขวาง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ถึง 565 ลิตร และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม รวมทั้งฟังก์ชั่นความสะดวกสบายค่อนข้างครบเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกัน
แต่สำหรับรุ่นรองท็อปตัวนี้ สาเหตุที่บอกว่าคุ้มค่า เพราะมีอุปกรณ์จำเป็นค่อนข้างครบ เช่น กระจกไฟฟ้าทั้งด้านหน้าและหลัง ระบบเซ็นทรัลล็อก กุญแจรีโมต แบบมีกะพริบตอบรับ แต่ไม่มีเสียงสัญญาณตอบรับ ไม่มีปุ่มสตาร์ต ไม่มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียงไม่มีทวีตเตอร์ 2 ตำแหน่ง ไม่มีบลูทูธ แผงบังแดดคู่หน้า ไม่มีช่องเสียบนามบัตรด้านคนขับ ไม่มีกระจกแต่งหน้า ไม่มีไฟตัดหมอก กระจกมองข้างพับไม่ได้ มือจับประตูด้านในไม่ใช่โครเมียม มือจับประตูด้านนอกและวัสดุตกแต่งกระโปรงท้ายไม่ใช่โครเมียม และล้อกระทบขอบ 15 นิ้วไม่ใช่อะลูมิเนียมอัลลอย เหมือนรุ่นท็อป แต่ก็ถือว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็น
เพราะมีอุปกรณ์ เช่น มีระบบกรองอากาศ เสาอากาศแบบฝังกระจกหลัง ลำโพง 4 ตำแหน่ง เครื่องเล่น MP3 ที่เปิดกระโปรงรถแบบไฟฟ้า พวงมาลัย 3 ก้านแบบยูรีเทน พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า จอแสดง
ผลมาตรวัดระยะทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง มาตรวัดระยะที่สามารถเดินทางต่อไปได้ มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก มาตรวัดเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง มาตรวัดระยะเดินทาง เสียงสัญญาณเตือนเปิดไฟหน้าค้างและลืมกุญแจ ไฟสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ ปิดประตูไม่สนิท ระดับน้ำมันใกล้หมด ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารด้านหน้า 3 ตำแหน่ง ตอนกลางห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง และบริเวณคอนโซลกลางด้านล่าง
นอกจากนี้ ยังมีที่วางแก้วน้ำและที่วางขวดน้ำ 8 ตำแหน่ง ช่องเก็บสัมภาระบริเวณประตูหน้าและหลัง ช่องเก็บของคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้าด้านล่าง พร้อมไฟส่องสว่างและฝาปิด มีช่อง USB และ AUX มีช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ที่พักเท้าสำหรับคนขับ เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมพนักพิงศีรษะ 2 ตำแหน่ง ปรับตำแหน่งสูงต่ำได้ด้านคนขับ เบาะด้านหลังมีพนักพิง 2 ตำแหน่ง มีที่วางแขนด้านหน้าและหลัง
ไฟหน้าฮาโลเจนโปรเจ็กเตอร์ กระจกสีตัดแสง ไล่ฝ้ากระจกหลัง ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา 2 จังหวะพร้อมที่ฉีดน้ำ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับไฟฟ้า กระจกมองหลังปรับแสงกลางวันกลางคืนได้ กระจังหน้าโครเมียม
ส่วนระบบความปลอดภัยมาครบ เช่น ถุงลมนิรภัย SRS ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า พวงมาลัยแบบยุบตัว เข็มขัดนิรภัยทั้งด้านหน้าและหลัง ด้านหน้าปรับระดับได้ มีคานกันกระแทกด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยเบรก ไฟเบรกดวงที่ 3 ระบบกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์ ระบบสัญญาณเตือนภัย ชุดซ่อมแซมยางฉุกเฉิน
อุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดมากับรถ เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับการเดินทางได้ครบครัน
ส่วนเครื่องยนต์รุ่นนี้ เรื่องประหยัดน้ำมันได้มาตรฐานอีโคคาร์
จากเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ K12B ขนาดความจุ 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาว์ลแปรผันทั้งไอดีและไอเสีย (VVT) ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจคล่องตัวด้วยแรงบิด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร
ความแม่นยำของพวงมาลัยถือว่าใช้ได้ ทำให้การควบคุมการขับขี่ทำได้ดี การยึดเกาะถนนค่อนข้างดี ค่อนข้างนิ่งในขณะเข้าโค้งที่ความเร็วสูง แตกต่างจากรถเล็กหลายรุ่น ประเภทเดียวกันจะค่อนข้างร่อน
เซียส GL รุ่นรองท็อปนี้ ตั้งราคาขายไว้ที่ 5.59 แสนบาท ถือว่าเป็นรถเก๋งเล็กที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่น่าจับตาอีกรุ่นหนึ่ง
