ซูซูกิ ประกาศศักดาชิงแชร์ฯ โตสวนกระแสตลาดรถยนต์

ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีส่วนช่วยให้ค่ายรถยนต์เล็กๆ จากญี่ปุ่นอย่างซูซูกิสามารถผลักดันตัวเองจนกลายมาเป็นผู้นำตลาดรถเล็ก โดยเฉพาะรถยนต์อีโคคาร์ ได้รับการกล่าวถึงในฐานะรถยนต์คุณภาพแถวหน้ายี่ห้อหนึ่ง

ล่าสุด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงผลประกอบการประจำปี 2558 และนโยบายการดำเนินงานในปี 2559 นำโดย มร.โยจิ มุโรซากะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คนล่าสุด เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรของซูซูกิเมื่อไม่นานมานี้ พร้อม นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ณ โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โยจิ มุโรซากะ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ซูซูกิมียอดขายในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี 2558 จำนวน 21,285 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5.5% ส่งผลถึงภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดเป็น 2.66% แม้จะต้องเผชิญสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ที่ผ่านมาซูซูกิได้แนะนำยนตรกรรมจากซูซูกิ เช่น ซูซูกิ สวิฟท์ ซูซูกิ เซเลริโอ ทั้งสองรุ่นนี้ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจกับวงการรถยนต์ประเภทประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ทำให้กระแสนิยมในแบรนด์ซูซูกิเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ซูซูกิก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำรถยนต์ชนิดคอมแพกต์คาร์อย่างรวดเร็ว

และในไตรมาสที่ 3 ปี 2558 ซูซูกิได้เปิดตัวซูซูกิ เซียส รถยนต์ซีดาน อีโคคาร์รุ่นใหม่สู่ตลาดประเทศไทย ให้ความคุ้มค่าทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน มีจุดเด่นเหนือกว่ารถซีดานในระดับเดียวกัน เช่น ห้องโดยสารกว้างขวาง สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และในช่วงงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซูซูกิได้แนะนำซูซูกิ เซียส อาร์เอส มาพร้อมชุดแต่งสไตล์โมเดิร์นสปอร์ตรอบคัน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตตี้ อีโคคาร์ (Sporty Eco car) สำหรับคนรุ่นใหม่ และช่วยตอบรับกระแสนิยมของลูกค้าให้เข้าถึงรถยนต์มาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน ราคาเหมาะสม เป็นสิ่งที่ซูซูกิค้นคว้าและพัฒนาจนสามารถตอบโจทย์ลูกค้ามาโดยตลอด

Advertisement

คาดว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้จะเหมือนกับปีที่แล้ว ที่ยังคงชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ และแม้ว่าซูซูกิจะต้องเร่งผลิตรถอีโคคาร์ให้ได้ตามเงื่อนไขภาครัฐในปีนี้ที่ 1 แสนคัน แต่คงไม่มีปัญหา เพราะบริษัทซูซูกิ ประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ จะเข้ามาช่วยผลักดันตลาดส่งออก มีแผนจะส่งซูซูกิ เซียส ที่ผลิตในเมืองไทยส่งไปขายยังละตินอเมริกาเพิ่มเติมช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ จะเพิ่มยอดผลิตโรงงานที่ จ.ระยอง จากปีที่แล้ว 6 หมื่นกว่าคัน เป็น 7 หมื่นกว่าคันในปีนี้ ซูซูกิมั่นใจว่าระยะกลางในปี 2020 ซูซูกิจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคัน มีมาร์เก็ตแชร์ (ส่วนแบ่งตลาด) ตลาดรถยนต์เมืองไทยยังคงเติบโตต่อไปได้ดีในระยะยาว และซูซูกิยืนยันว่าสามารถแข่งขันในกลุ่มรถเล็กได้อย่างแน่นอน

102

วัลลภ ตรีฤกษ์งาม

ในปี 2558 ซูซูกิประสบความสำเร็จอีกครั้ง สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ได้ถึง 2.66% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมาครองมาร์เก็ตแชร์ 2.29% จากตลาดรถยนต์รวมอยู่ที่ 799,592 คัน ลดลงประมาณ 9% เมื่อเทียบกับปี 2557 แม้ในปี 2559 นี้หลายๆ ภาคส่วนจะมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวอันเนื่องมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลกำลังซื้อโดยรวมมีจำกัด แต่ซูซูกิยังคงมองทุกอย่างในด้านบวก เร่งพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ สำหรับการผลิตรถยนต์เพื่อขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซูซูกิยังคงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยในปีที่ผ่านมาซูซูกิส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 39,072 คัน จำหน่ายภายในประเทศ 21,285 คัน ซูซูกิรุ่นเซเลริโอ ส่งออกไปยังประเทศแถบยุโรปได้ 37,914 คัน

Advertisement

ในปี 2559 ซูซูกิวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 24,000 คัน แบ่งเป็น สวิฟท์ 9 พันคัน เซียส 9 พันคัน แคร์รี่ 3 พันคัน เซเลริโอ 2 พันคัน และเออร์ติกา 1 พันคัน คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มประมาณ 13% เมื่อเทียบกับปี 2558 และมีมาร์เก็ตแชร์ 3% มีปัจจัยบวกคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและราคาน้ำมันลดลง แต่จะมีปัจจัยลบกรณีกำลังซื้อของปีนี้ถูกใช้ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้วบางส่วน จากความกังวลการปรับภาษีรถยนต์ขึ้นในปีนี้ การปล่อยสินเชื่อยากของไฟแนนซ์ และภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา แต่ซูซูกิก็มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมาย เพราะจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ เออร์ติกา ไมเนอร์เชนจ์ และสวิฟท์ สเปเชียล อีดิชั่น

ในส่วนกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้ ซูซูกิยังคงเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬา พร้อมชูกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ โดยซูซูกิสนับสนุนอย่างเป็นทางการอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วเราโชคดีได้ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ได้เป็นอย่างดี และในปีนี้จะต่อสัญญากับซิโก้อีกปี ซึ่งจะลงนามในสัญญากันเร็วๆ นี้

ด้านบริการหลังการขาย ซูซูกิยังคงยึดแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซูซูกิ ภายใต้แนวคิด 3S คือ เซลส์ (Sales) เซอร์วิส (Servics) ชิ้นส่วน อะไหล่ (Spare Parts) คือการแนะนำสินค้าคุณภาพอย่างเป็นธรรมควบคู่ไปกับการบริการอย่างประทับใจ จำหน่ายอะไหล่แท้จากผู้ผลิต เน้นพัฒนาการบริการหลังการขายพร้อมบริการจัดส่งอะไหล่ภายใต้การบริการภายใน 24 ชั่วโมง การฝึกอบรมบุคลากรด้านการช่างให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการดูแลลูกค้า ตลอดจนโปรแกรมส่งเสริมหลังการขาย (บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง)

ในปีที่ผ่านมาซูซูกิมีศูนย์บริการครอบคลุม 99 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 110 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2559 เพื่อยกระดับรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวของประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์อย่างพอใจสูงสุดและเชื่อมั่นไว้วางใจในซูซูกิ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image