โตโยต้า อัลติส ‘ไมเนอร์เชนจ์’ แต่งสปอร์ต-เติมน้ำมันอี85ได้

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าแนะนำรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย โคโรลล่า อัลติส โซ เอ็กไซเต็ด (So Excited) รุ่นปรับปรุงใหม่ หลังจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดรุ่นหนึ่งของโตโยต้า แนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลาเกือบ 50 ปี ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทยด้วยยอดขายรวมมากกว่า 740,000 คัน (ยอดขายถึงเดือนธันวาคม 2558) แสดงให้เห็นว่า โคโรลล่า ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี สำหรับรุ่นปรับปรุงใหม่ พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย รวมไปถึงระบบความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น รุ่นปรับปรุงใหม่นี้ยังพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแนวคิดตระหนักถึงเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงพัฒนา โคโรลล่า อัลติส ให้พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในเครื่องยนต์ทุกรุ่นตามมาตรฐานจากโรงงานของโตโยต้า และยังคงออกแบบให้เป็นรถโดดเด่นด้านรูปลักษณ์ดีไซน์ สปอร์ตโฉบเฉี่ยว สะดุดตายิ่งขึ้น พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่สมบูรณ์แบบ เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์โคโรลล่า

Corolla-Altis-Rear

นายวุฒิกรกล่าวว่า โคโรลล่า อัลติส รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2559 จากปัจจุบัน 8 รุ่น ได้แก่
รุ่น 1.8V Navi เกียร์อัตโนมัติ ซุปเปอร์ ซีวีที-ไอ (Super CVT-i)
รุ่น 1.8G เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
รุ่น เอสสปอร์ต (ESPORT) เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
รุ่น 1.8E เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
รุ่น 1.6G เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
รุ่น 1.6E CNG เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
รุ่น 1.6J CNG เกียร์ธรรมดา รุ่น 1.6J เกียร์ธรรมดา

ส่วนรุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ ปี 2559 มี 7 รุ่น โดยไม่มีรุ่น 1.6J CNG เกียร์ธรรมดา

Advertisement

ทั้งนี้ โตโยต้าได้ปรับปรุงเครื่องยนต์รุ่น 1.6 และ 1.6 CNG ให้รองรับการใช้งานน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเครื่องยนต์รุ่น 1ZR-FBE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ความจุกระบอกสูบ 1598 ซีซี กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที

นายวุฒิกรกล่าวว่า สำหรับภายนอกได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มากขึ้นในแต่ละรุ่น เช่น ไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็กเตอร์ พร้อม ไฟ แอลอีดี เดย์ ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ส (LED Day Time Running Lights) (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8G) ไฟตัดหมอกหน้า สว่างไสว เพิ่มทัศนวิสัยในขณะฝนตกหนักหรือหมอกลงจัด (เพิ่มเติมในรุ่น ESPORT) มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip-type เปิด-ปิดสะดวก เสริมดีไซน์ด้วยแถบโครเมียม (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8E) กระจกข้างพับเก็บอัตโนมัติแบบใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายเมื่อล็อกประตูรถ โดยกระจกจะพับเก็บโดยอัตโนมัติ (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi และ 1.8G) ส่วนภายในพัฒนาให้ทันสมัยและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น รวมถึงติดตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น มาตรวัดเรืองแสงออพติตรอน (Optitron)

pic11

Advertisement

พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบใหม่ ดีไซน์สปอร์ตหรู แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเด่นชัด (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi และ 1.8G) แป้นเปลี่ยนเกียร์ แพดเดิล ชิฟต์ (Paddle Shift) ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8G) ระบบกรองอากาศนาโนในห้องโดยสารนาโน (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi และ 1.8G) เบาะหลังปรับเอนได้ ปรับเปลี่ยนระดับได้ตามความต้องการ (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi)

interior_bg

นายวุฒิกรกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด ในทุกรุ่น เช่น โครงสร้างนิรภัย GOA แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ป้องกันล้อล็อกและลื่นไถล เมื่อเบรกอย่างกะทันหัน ควบคุมรถได้ในสถานการณ์คับขัน ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคงแม้ในทางโค้งหรือถนนเปียกลื่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ควบคุมรถและป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกและลดระยะการเบรกให้สั้นลง ระบบจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิสระ 4 ล้อแปรผันตามแรงเบรกที่กดลงบนล้อแต่ละล้ออย่างเหมาะสม ระบบเสริมแรงเบรก (BA) เพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติในสภาวะเบรกฉุกเฉิน และแรงเบรกจากผู้ขับไม่เพียงพอต่อการหยุดรถ มี 6 สี ให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาล (Dark Brown Mica Metallic) สีเทา (Gray Metallic) สีขาว (Super white) (เฉพาะรุ่น 1.6 ลิตร) / สีขาวมุก (White Pearl Crystal) (เฉพาะรุ่น 1.8 ลิตร) / สีเงิน (Silver Metallic) และสีดำ (Attitude Black Mica) ส่วนราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเครื่องปรับอากาศ) รุ่น 1.8 V Navi 1,079,000 บาท รุ่น 1.8G 999,000 บาท รุ่น ESport 939,000 บาท รุ่น 1.8E 849,000 บาท รุ่น 1.6G 844,000 บาท รุ่น 1.6E CNG 954,000 บาท และรุ่น 1.6J 779,000 บาท

นายวุฒิกรกล่าวว่า นอกจาก โคโรลล่า อัลติส รุ่นปรับปรุงใหม่แล้ว โตโยต้ายังปรับปรุง โคโรลล่า รุ่นพิเศษ อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เพิ่มความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดุดันมากขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน ตอบสนองได้ในทุกระดับของการขับขี่ ภายใต้แรงบันดาลใจของรถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์จากสนามแข่งขันระดับโลกอย่าง นูร์เบอร์กริง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่รักความท้าทาย ต้องการความเร้าใจ โดยเฉพาะผู้รักการขับรถให้อารมณ์สนุกสนานในการขับขี่ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2559 ปรับปรุงอุปกรณ์ เช่น กระจังหน้าเปียโน แบล๊ก (Piano Black) พร้อมแถบ กัน เมทัลลิก (Gun Metallic) มีสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ ไฟตัดหมอกหน้า LED ให้ความสว่างนุ่มนวล ติดสติ๊กเกอร์ นูร์เบอร์กริง อีดิชั่น (Nurburgring Edition) บริเวณด้านข้างตัวรถ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่

กระจกข้างพับอัตโนมัติ สะดวกสบายเมื่อล็อกรถ กล้องมองหลัง เบาะหนังคู่หน้าแบบเจาะรู เพอร์โฟเรท (Perforate) สีดำพร้อมแถบสีแดง กระชับสรีระ วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูสีแดงเป็นสปอร์ตพันธุ์แท้ พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และ MID เครื่องเล่น DVD พร้อมรองรับระบบนำทาง เนวิเกเตอร์ รองรับ สมาร์ท จี-บุ๊ก (Smart G-Book) และบลูทูธ พรมปูพื้นดีไซน์สปอร์ต มี 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก (White Pearl) และ / สีแดง (Red Mica Metallic) เป็นสีใหม่ ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเครื่องปรับอากาศ) รุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีขาวมุก 952,000 บาท และรุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีแดง 942,000 บาท

pic1

pic6

pic5

pic12

pic16

pic17

pic5 (1)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image