เลกซัสกรุ๊ป แบรนด์รถหรูในเครือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กระโดดเข้ามาชิงเค้กกับยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่างเบนซ์ บีเอ็มฯ วอลโว่ งัดทีเด็ดออกมาเกทับแบบไม่ไว้หน้าอีกครั้ง ด้วยการแนะนำ เลกซัส RC200t ยนตกรรมสปอร์ตคูเป้ระดับหรูแห่งอนาคต มาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีของการขับขี่แบบสปอร์ตเต็มอารมณ์ ออกแบบเน้นความพิถีพิถันสไตล์ตะวันออกของญี่ปุ่น แต่แฝงไปด้วยอารมณ์ของความสปอร์ต
เลกซัส RC คือ รหัสร้อนของยนตกรรมสปอร์ตคูเป้ นำแนวคิด แอโรไดนามิก แฮนดลิง สเตบิลิตี้ (Aerodynamic Handling Stability) จากสนามแข่งรถมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะของตัวรถ ใต้ท้องรถเรียบ ครีบระบายอากาศรอบตัวรถ เพื่อให้อากาศไหลผ่านตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มสมรรถนะการควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับด้วยความเร็วสูง
โครงสร้างตัวถังแข็งแรง พัฒนาเฉพาะสำหรับรหัส RC เท่านั้น จากการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าของเลกซัส ตั้งแต่การเชื่อมด้วยระบบสกรูเลเซอร์ กาวพิเศษเพื่อเชื่อมตัวถัง ทำให้ได้โครงสร้างตัวรถแกร่ง พัฒนาแซสซีส์สไตล์สปอร์ตแข็งแรงเป็นพิเศษ ประมาณว่าโครงสร้างนี้เกิดมาเพื่อความเป็นสปอร์ตพันธุ์แท้โดยเฉพาะ
ส่วนสมรรถนะมาแบบเต็มๆ จากเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650-4,400 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อ ชม. ใช้เวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม.ต่อ ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.7 กม.ต่อลิตร ค่าเฉลี่ยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 174 กรัม/กม.
ระบบขับเคลื่อน เป็นเกียร์ 8-สปีด สปอร์ต ไดเรคต์ ชิฟท์ (8-Speed Sport Direct Shift-SPDS) พร้อมแพดเดิลชิฟท์ หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
และเพื่อให้มาแบบเต็มยศครบเครื่อง จึงออกแบบให้มีเสียงจากเครื่องยนต์ดังกังวานเร้าใจ สไตล์รถแรงแบบหรู มาจากเสียงท่อไอเสียแบบคู่ ออกแบบพิเศษช่วยลดเสียงขณะขับขี่ความเร็วต่ำ และสร้างเสียงเร้าอารมณ์เมื่อเร่งเครื่อง แต่ไม่แผดเสียงดังราวกับแหกปากตะโกน เหมือนรถแต่งบ้านๆ ให้รำคาญใจ
การควบคุมช่วงล่างมีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมดธรรมดา (normal) โหมดอีโค (Eco) โหมดสปอร์ต หรือเอส (S) และโหมดสปอร์ตเอส พลัส (Sport S +) เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตแบบครบสูตร
กระจังหน้าสปินเดิล กริลล์ (Spindle Grille) ลายตาข่าย เอกลักษณ์พิเศษสไตล์ เอฟ สปอร์ต (F Sport) เอกลักษณ์ของเลกซัส
ชุดไฟหน้า แบบ LED 3 ดวง รูปทรงตัว L ได้รับแรงบันดาลใจจากไฟหน้าของเลกซัส LFA และรถซุปเปอร์คาร์ LF-LC สุดยอดรถหรูในตระกูลเลกซัส
ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ส แบบ LED รูปทรงตัว L กลมกลืนไปกับกันชนหน้า ส่วนไฟท้ายประหยัดพลังงานแบบ LED โครงสร้างภายในพื้นผิวแบบสามมิติ ส่องสว่างเป็นรูปตัว L ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R18
การตกแต่งภายในหรูหรา ล้ำสมัย เติมความสุนทรีย์ด้วยไฟเรืองแสงที่ประตู
เห็นเป็นรถสปอร์ตคูเป้แบบนี้ แต่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการเข้าที่นั่งเบาะหลัง ด้วย วัน-ทัช วอล์ก-อิน ฟังก์ชั่น (One-touch walk-in Function) เบาะหน้าจะเลื่อนมาทางด้านหน้าโดยอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อโยกคันโยกตรงบริเวณหัวไหล่ของพนักพิงเบาะหน้า และเบาะนั่งจะเคลื่อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมเมื่อมีการยกพนักพิงขึ้น
และแม้ว่าเบาะหลังจะมีพื้นที่ไม่มากตามสไตล์รถคูเป้ แต่เวลานั่งกลับไม่อึดอัด เพราะเบาะนั่งทำจากหนังชั้นดี เมื่อนั่งลงไปจะยุบตัวจมลงไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด
จุดเด่นอีกด้าน ที่ออกแบบมาเพื่อเกทับบลั๊ฟแหลกรถหรูจากค่ายยุโรป นั่นก็คือระบบมัลติมีเดีย มาแบบอลังการงานสร้าง ทั้งการแสดงผลผ่านจอ อิเลคโตร มัลติ-วิชั่น (Electro Multi-Vision-EMV) ขนาด 7 นิ้ว บริเวณกึ่งกลางคอนโซลหน้า และจอแสดงผลแบบสี ทิน ฟิล์ม ทรานซิสเตอร์ (Thin Film Transistor-TFT) ขนาด 4.2 นิ้ว บริเวณมาตรวัด ควบคุมง่ายดายด้วยสวิตช์บนพวงมาลัย
ส่วนทีเด็ดสุดสุด น่าจะอยู่ที่ระบบเครื่องเสียงชั้นเยี่ยม มาร์ค เลวินสัน พรีเมียม เซอร์ราวด์ ซาวด์ ซิสเต็ม (Mark Levinson Premium Surround Sound System) มาพร้อมลำโพง 17 ตัว ด้วยระบบเซอร์ราวด์ 5.1 ให้เสียงละเอียดคมชัดสูง และเทคโนโลยี ซิกแนล ด็อกเตอร์ (Signal Doctor) คุณภาพเสียงสุดยอด
หน้าปัดแสดงผลจอสีแบบเดี่ยว TFT ขนาด 8 นิ้ว ถ่ายทอดสายพันธุ์สปอร์ตจากซูเปอร์คาร์ LFA สามารถเปลี่ยนสีฟ้า ขาว หรือแดง ได้ตามต้องการ และเมื่อผู้ขับขี่เริ่มการทำงานของระบบมัลติมีเดีย วงแหวนของหน้าปัดจะเลื่อนไปข้างหน้าอัตโนมัติเพื่อแสดงผล
นวัตกรรมล่าสุดของระบบควบคุมอุณหภูมิ อิเลกโตรสตาติก เทมเพอเรเจอร์ คอนโทรล สวิทช์ส (Electrostatic temperature control switches) บริเวณคอนโซลกลาง ง่ายต่อการควบคุม ทำงานทันทีเพียงใช้นิ้วสัมผัส สะดวกด้วยระบบแยกอิสระ แยกปรับอุณหภูมิได้ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
นาฬิกาแบบอนาล็อกให้อารมณ์คลาสสิก ติดตั้งบริเวณแผงคอนโซลหน้า สะท้อนคุณภาพของเลกซัสด้วยแผงหน้าปัดเรียบ และสเกลแบบ 3 มิติ มองเห็นได้ชัดเจน
นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยยังมาแบบล้ำสมัย ทั้งระบบ ป๊อป อัพ ฮูด (Pop Up Hood – PUH) เมื่อเซนเซอร์ติดตั้งในกันชนหน้าตรวจพบการปะทะกับคน ฝากระโปรงหน้าจะยกตัวขึ้นทันที เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับแรงกระแทก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคนเดินถนนในระดับสูงสุด
RC 200t รุ่น F-Sport ราคา 5,490,000 บาท มาแบบครบเครื่องเรื่องรถสปอร์ตคูเป้หรู เป็นทีเด็ดอีกรุ่นของค่ายเลกซัส เกิดมาเพื่อท้าสู้กับค่ายยุโรปโดยเฉพาะ