| ที่มา | ยานยนต์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
| เผยแพร่ |
นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด คนใหม่
พร้อมด้วย นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ ผู้บริหารหญิงคนไทยคนแรกและคนเดียวที่มีตำแหน่งในระดับบอร์ดบริหารของบริษัทในกลุ่มอีซูซุมอเตอร์ และบริษัทมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ทั่วโลก
ร่วมกันนำคณะสื่อมวลชนไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 8-14 ตุลาคมที่ผ่านมา
หลังจากเครื่องบินการบินไทยลงที่สนามบินซูริกแล้ว ชาวคณะก็บินต่อไปยังเมืองลูกาโน่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในทันที
ณ ที่นั้น เป็นที่ตั้งของบริษัทมิดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทมิดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกและรถปิกอัพอีซูซุในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัทมิดี้ยุโรป ซึ่งมีบริษัทอีกหลายบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกและรถปิกอัพอีซูซุในยุโรป
อาทิ บริษัทมิดี้ ฟรานซ์ เป็นตัวแทนจำหน่ายซึ่งรับผิดชอบตลาดในฝรั่งเศส บริษัทมิดี้ สเปน เป็นตัวแทนจำหน่ายที่รับผิดชอบตลาดในประเทศสเปน เป็นต้น
ส่วนบริษัทมิดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่รับผิดชอบจำหน่ายในตลาดประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้ตั้งชื่อว่า “มิดี้ สวิตเซอร์แลนด์” เพราะคำว่า “มิดี้” ในสวิตเซอร์แลนด์หมายถึง “อาหารกลางวัน”
เกรงว่ากลุ่มลูกค้าจะสับสนว่า บริษัทนี้จะขายรถหรือขายอาหารกันแน่ จึงเติมคำว่า “อินเตอร์เนชั่นแนล” เข้าไป เพื่อให้เกิดความแตกต่าง
สำหรับการเดินทางไปเยือนบริษัทมิดี้ อินเตอร์เนชั่นแนลครั้งนี้ นายจังคาร์โล่ มิรันโดล่า ประธานกลุ่มบริษัทมิดี้ (MIDI Group) และ นายโรแบร์โต้ เบรนดาเกลีย กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทมิดี้ยุโรป มาให้การต้อนรับด้วยตัวเอง
ทั้งนายจังคาร์โล่ และนายโรแบร์โต้ เป็นชาวอิตาลี กลุ่มบริษัทมิดี้ก็มีสัญชาติอิตาลี
กลุ่มบริษัทมิดี้ ก่อตั้งสมัยพ่อของนายจังคาร์โล่ทำธุรกิจประกอบรถบรรทุกแล้วส่งไปขายประเทศลิเบีย ตั้งแต่ปี ค.ศ.1946 สมัยที่ลิเบียยังเป็นเมืองขึ้นของอิตาลี
ยุคนั้น บริษัทมิดี้รับออเดอร์จากลูกค้า แล้วประกอบรถบรรทุกตามสเปกที่ได้มา ลูกค้าอยากได้เครื่องยนต์ของยี่ห้อใด ทางบริษัทจะประกอบรถตามใบสั่ง แล้วส่งไปขาย
(บน) ผู้บริหารบริษัทมิดี้ฯ และผู้บริหารบริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลล์ (ล่าง) นายจังคาร์โล่ มิรันโดล่า ประธานกลุ่มมิดี้ รับของที่ระลึกจากนายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ปรากฏว่าขายดิบขายดี กระทั่งร่ำรวย กิจการรุ่งโรจน์
จากวันนั้นถึงวันนี้บริษัทมิดี้ขยายเครือข่ายกลายเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญของยุโรป มีทั้งกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถขุดรถตัก อุปกรณ์ก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถบรรทุก และรถปิกอัพ รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
แต่ในจำนวนกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่กล่าวมา นายโรแบร์โต้บอกว่า การจำหน่ายรถอีซูซุถือเป็นธุรกิจที่สำคัญมากสำหรับมิดี้
ปัจจุบันกลุ่มมิดี้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกอีซูซุในยุโรป 15 ประเทศ
และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ในยุโรป 10 ประเทศ
การพบปะกันครั้งนี้ นายโรแบร์โต้ได้บรรยายภาพรวมของตลาดรถในยุโรปให้ฟัง
สรุปว่า อังกฤษซื้อรถปีละ 40,000 คัน เยอรมนีซื้อรถปีละ 18,000 คัน ฝรั่งเศสซื้อรถปีละ 13,000 คัน
แต่ใน 10 ประเทศยุโรปที่มิดี้ขายรถอีซูซุดีแมคซ์อยู่…ฝรั่งเศส คือ ประเทศที่มีตลาดรถปิกอัพใหญ่ที่สุด
คำว่า “ฝรั่งเศส” ในที่นี้รวมถึงประเทศที่เป็นดินแดนที่เรียกว่า DOM-TO (ย่อมาจาก Departement d”outre-mers Territoire d”outre-mer) ด้วย
DOM-TOM คือ ประเทศกวาเดอลุป มาร์ตินีก เซนต์ มาร์ติน เรอูเนียง เปรนช์กีอานา และ มายอต
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพในยุโรป 10 ประเทศที่มิดี้รับผิดชอบ นายโรแบร์โต้ได้นำผลการขายเปรียบเทียบช่วง 9 เดือน คือ มกราคมถึงกันยายน ปี ค.ศ.2015 และปี 2016 มาอวด…
นายโรแบร์โต้บอกว่า ยอดขายรถอีซูซุดีแมคซ์ในประเทศอิตาลี เมื่อปี 2015 มีส่วนแบ่งการตลาด 15.1% ส่วนปี 2016 ขยายตัวเป็น 16.2%
ขายได้เป็นอันดับ 2 ในประเทศอิตาลี รองจากรถฟอร์ดเท่านั้น
ส่วนอันดับ 3 คือ มิตซูบิชิ, อันดับ 4 นิสสัน และ 5.โตโยต้า
สำหรับสภาพการขายรถอีซูซุดีแมคซ์ที่ประเทศฝรั่งเศส พบว่า ปี 2015 รถปิกอัพดีแมคซ์มีส่วนแบ่งการตลอด 13% ปี 2016 ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 14.2%
ขายอีซูซุดีแมคซ์ได้อันดับ 3 รองจากรถฟอร์ด อันดับ 1 และรถโตโยต้า อันดับ 2
ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศซึ่งชาวคณะตรีเพชรอีซูซุเซลส์ไปดูงานในวันนั้น
ปี 2015 รถอีซูซุดีแมคซ์มีส่วนแบ่งการตลาด 11.3% ปี 2016 ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 12.9%
ขายได้เป็นอันดับ 4 ในสวิตเซอร์แลนด์
น้อยกว่าอันดับ 1 ฟอร์ด, อันดับ 2 โฟล์ก และอันดับ 3 โตโยต้า
ส่วนการขายอีซูซุดีแมคซ์ที่ประเทศสเปน มีอุปสรรคตรงที่ธุรกิจรถที่นั่นนิยมรถเช่า และการซื้อรถเพื่อไปปล่อยเช่ามักจะแข่งขันกันที่ราคา
ยี่ห้อไหนราคาต่ำสุดก็เป็นที่นิยม
ด้วยเหตุนี้ ยอดขายอีซูซุดีแมคซ์ในประเทศสเปนจึงตกไปอยู่อันดับ 5 ส่วนอันดับ 1-4 เรียงตามลำดับคือ โตโยต้า, ฟอร์ด, โฟล์ก และมิตซูบิชิ
อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ยังมีส่วนแบ่งตลาดที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
นั่นคือปี 2015 มีส่วนแบ่งตลาด 3.2% พอปี 2016 มีส่วนแบ่งการตลาด 6.9%
นายโรแบร์โต้ระบุว่า ภาพรวมของตลาดรถปิกอัพในยุโรปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่ายุโรปฟื้นตัว
และเป็นสัญญาณดีสำหรับการจำหน่ายรถปิกอัพอีซูซุ ซึ่งเข้ามาเปิดตัวในตลาดยุโรปช้ากว่ายี่ห้ออื่นๆ
ทั้งนี้ ปิกอัพอีซูซุเพิ่งเปิดตัวในอิตาลีเมื่อปี 1998 เปิดตัวในฝรั่งเศสปี 2002 เปิดตัวในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2004 เปิดตัวที่สเปนเมื่อปี 2007
แม้จะเพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่สามารถมียอดขายและส่วนแบ่งการตลาดได้ขนาดนี้
นายโรแบร์โต้บอกว่ามีอนาคตและน่าพอใจ
ระหว่างการบรรยาย นายโรแบร์โต้ย้ำหลายครั้งว่า แม้มิดี้จะขายรถอีซูซุได้มากขึ้น แต่ก็ยังสู้บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ที่ขายในเมืองไทยไม่ได้
ดูเหมือนว่าฝรั่งจะทึ่งในกลยุทธ์การขายของบริษัทตรีเพชรฯ
ขณะนี้กลุ่มมิดี้กำลังจะนำ “หมัดเด็ด” จากไทยไปขายในยุโรปประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2560
“หมัดเด็ด” ที่ว่าก็คือ รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ เครื่องยนต์รุ่นใหม่
เครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ !
เครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์เปิดตัวในไทยไปเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่สำหรับยุโรปได้รับเพียงข่าวสาร ยังไม่ได้สัมผัสตัวจริง
ทั้งนี้เพราะยอดสั่งจองในไทยสูงจนผลิตขายไม่ทัน
ต่างประเทศจึงต้องรอไปก่อน
และเมื่อระบบการผลิตในไทยตอบโจทย์ยอดการจัดจำหน่ายในไทยแล้ว ก็ถึงเวลาที่อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ จากไทยจะทะยานไปถึงยุโรป
นายโรแบร์โต้บอกว่า ขณะนี้ได้จัดอบรมดีลเลอร์แต่ละประเทศในยุโรปไปแล้ว เพื่อให้ดีลเลอร์แต่ละแห่งได้รับความรู้จากนวัตกรรมใหม่ของเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
พร้อมกันนั้นยังได้เปิดให้ดีลเลอร์ทดสอบรถปิกอัพอีซูซุ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์นี้ด้วย
ผลจากการอบรมและทดสอบ ทำให้ดีลเลอร์ออเดอร์รถปิกอัพอีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์มาแล้ว 700 คัน
ทั้งนี้ รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์นี้ได้เปิดตัวไปแล้วที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้เอง
พวกเขาชูคอนเซ็ปต์ ฉลอง 100 ปีอีซูซุที่ญี่ปุ่น และฉลองขายรถปิกอัพเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ครั้งแรกในยุโรปด้วย
ในช่วงท้าย นายมิรันโดล่าให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อีซูซุได้เลือกหนทางพัฒนาเครื่องยนต์ที่ถูกต้องแล้ว เพราะในโลกแห่งการแข่งขันปัจจุบัน โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาก
การพัฒนาเครื่องยนต์มี 2 ทางให้เลือก
หนึ่ง คือ ทำให้เครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น แรงมากขึ้น แล้วเติมสารบางอย่างลงไปเพื่อลดมลพิษ
อีกหนึ่ง คือ พัฒนาเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2.0 แต่สามารถให้แรงมากขึ้น
นายมิรันโดล่าบอกว่า อีซูซุเลือกแนวทางพัฒนาเครื่องยนต์ให้เล็ก แต่มีแรงมากขึ้น ถือเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง
และการรุกตลาดรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ในยุโรปตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เขาจะใช้คุณสมบัติของเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์นี่แหละเป็นจุดขาย
เครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ลดมลพิษ เครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 60 กิโลกรัม ทำให้สามารถบรรทุกได้เยอะขึ้น
เมื่อผนวกกับเครื่องยนต์ใหม่ที่แม้เบาแต่ให้แรงม้ามากกว่าเดิม
บวกกับการฟื้นตัวของตลาดยุโรป ทำให้นายมิรันโดล่าและนายโรแบร์โตมั่นใจ
มั่นใจว่า รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ เครื่องยนต์ใหม่ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่จะเริ่มจำหน่ายในยุโรปต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 จะประสบความสำเร็จในตลาดยุโรป
เฉกเช่นเดียวกับที่บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ทำสำเร็จมาแล้วในเมืองไทย
