บีเอ็มดับเบิลยูเปิดเกมรุก “รถยนต์ไฟฟ้า” ประเดิมตั้งสถานีชาร์จไฟ “เซ็นทรัลเวิลด์-ออลซีชั่น” เล็งปูพรมเพิ่มในศูนย์การค้าและ รร. 5 ดาว เตรียมส่งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่เขย่าตลาดในงานมอเตอร์โชว์มีนาคมนี้ โชว์ศักยภาพปีที่ผ่านมากวาดยอดขายทะลุ “หมื่นคัน” พร้อมเทงบฯ 220 ล้านบาท ขยายคลังอะไหล่รองรับความต้องการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทเตรียมวางแผนเพื่อรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเดินหน้าขยายสถานีชาร์จ BMW i pure Wallbox สำหรับให้บริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i โดยไม่คิดค่าบริการ บริเวณโซนจอดรถยนต์พิเศษของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และอาคารออลซีซั่นเพลส พร้อมแผนเพิ่มสถานีชาร์จในศูนย์การค้าและโรงแรมระดับ 5 ดาวเพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น
“บริษัทหวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะให้การสนับสนุนส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่นเดียวกับที่ประเทศนอร์เวย์ ที่รัฐบาลให้การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่านโครงสร้างภาษีและการจัดทำระบบ สาธารณูปโภคเพื่อรองรับ รวมทั้งสนับสนุนให้คนอยากเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น”
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 220 ล้านบาท สำหรับการย้ายคลังอะไหล่ไปยังถนนบางนา-ตราด ในนิคมอุตสาหกรรมเทพารักษ์ ซึ่งได้ขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 3 เท่า หรือกว่า 14,000 ตารางเมตร รองรับการเก็บอะไหล่กว่า 40,000 รายการ และเพิ่มจำนวนการส่งอะไหล่ได้กว่า 2,000 ไลน์ต่อวัน เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่เพิ่มขึ้นทุกปีรวมถึงการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง สำหรับบีเอ็มฯและมินิที่ จ.ภูเก็ตและ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดอีก 2 แห่งใน จ.ภูเก็ตและ จ.พิษณุโลก
พร้อมกันนี้ บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู X1s-Drive18d รุ่นซีบียู ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2 ลิตร ด้วยราคาจำหน่าย 2.559 ล้านบาทโดยรถพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทันที โดยในอนาคตบริษัทมีแผนขึ้นไลน์ประกอบรถรุ่นนี้ที่โรงงาน จ.ระยอง
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมแนะนำรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคมนี้ด้วยได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 ต่อจากรถ i8 ที่แนะนำไปเมื่อปี พ.ศ .2557 และ X5 xDrive40e เมื่อปี พ.ศ. 2558
รวมทั้งการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ และรถมินิ คอนเวอร์ทิเบิลรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา
ขณะที่กลุ่มบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด เตรียมแนะนำมอเตอร์ไซค์ S1000 RR สีใหม่ Black Storm Metallic/Racing Red และชุดแต่งพิเศษสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R1200GS เพื่อร่วมฉลองในโอกาสการแข่งขันรายการรถมอเตอร์ไซค์วิบากระดับโลก International GS Trophy 2016 วันที่ 28 ก.พ.-5 มี.ค.นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่
นายพฟาลซ์กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมปีนี้ บริษัทเชื่อว่าตลาดโดยรวมจะยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ระดับ 22,000 คัน หรือเติบโต 11% ส่วนปีนี้ตลาดจะไปจบที่ยอดจำหน่ายเท่าใดนั้น ยังเป็นเรื่องที่ไม่สามารถประเมินได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าปีนี้ยอดขายรถบีเอ็มดับเบิลยูจะมีอัตราการเติบโตอย่างแน่นอน หลังจากปี 2588 ที่ผ่านมา มียอดส่งมอบรถยนต์-จักรยานยนต์ของบีเอ็มฯกรุ๊ปกว่า 10,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 7,751 คัน เติบโต 4% และรถมินิ 1,017 คัน เพิ่มขึ้น 10% และถือเป็นครั้งแรกที่รถมินิมียอดขายทะลุ 1,000 คันด้วย ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83%
“ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของเราด้วยการทุบสถิติยอดจำหน่ายทั้ง 3 แบรนด์ และยังเป็นการทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยที่เราจะเดินหน้านำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูทุกท่าน”
พร้อมกันนี้บริษัทได้ขยายเวลาในการรับประกันของรถยนต์บี เอ็มฯและมินิเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อเป็นของขวัญในโอกาสครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกในปี 2559 นี้ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่
สำหรับบริการเหนือระดับ ด้วย BMW Excellence Club สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูi8 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 พร้อมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เปี่ยมไปด้วยความหรูหราเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นบริการผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. บริการรถรับ-ส่งจากสนามบินสู่ที่พักด้วยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บริการ Fast Track ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึง 7 กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เป็นต้น
ด้าน ดร.ปีเตอร์-โอลิเวอร์ วากเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างสถิติการปล่อยสินเชื่อถึง 12,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ทำให้สินเชื่อในพอร์ตรวมมูลค่า 33,400 ล้านบาท
นับเป็นสถิติมูลค่าสินเชื่อในพอร์ตที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้า เครือข่ายผู้จำหน่ายและบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทยด้วย
