| ผู้เขียน | นายพล |
|---|
เฟอร์รารี่ พูโรซังเกว้
ม้าลำพอง 4 ประตูรุ่นแรก
แม้ว่าจะเจอปัญหากับพิธีเปิดตัว จากปัญหาฝุ่นควันที่ จ.เชียงราย ทำให้ คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์หรู เฟอร์รารี่ ต้องเปลี่ยนโปรแกรมกะทันหัน ยกเลิกการแถลงข่าวที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 3-4 เมษายน 2566 เป็นการเปิดตัวแบบไม่มีสื่อมวลชนมาเป็นสักขีพยานในภายหลังแทน
แต่ก็นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวาระครบรอบ 75 ปี ของแบรนด์ม้าลำพองสู่เวที ยนตรกรรมระดับโลกอีกครั้ง ด้วยการรังสรรค์ เฟอร์รารี่ Purosangue (พูโรซังเกว้) ซุปเปอร์คาร์ที่รวบรวมสมรรถนะเข้ากับความสะดวกสบาย มาจากเมืองมาราเนลโล ประเทศอิตาลี เพื่อเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อ Purosangue ในภาษาอิตาลีแปลว่า “พันธุ์แท้” เป็นรถสปอร์ตแบบ 4 ประตูขนานแท้ของเฟอร์รารี่ สร้างบรรทัดฐานใหม่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเครื่องยนต์แบบ V12 วางกลางลำด้านหน้าอันเลื่องชื่อของมาราเนลโล ปลดปล่อยพลังได้มากถึง 725 แรงม้า สมรรถนะอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที และจาก 0 ถึง 200 ใน 10.6 วินาที โดดเด่นด้วยเสียงคำรามอันน่าหลงใหลของเครื่องยนต์เฟอร์รารี่ มอบความสนุกในการขับขี่
เครื่องยนต์ของ Purosangue (รหัส F140IA) ยังคงไว้ซึ่งรูปแบบที่ทำให้ขุมพลัง 12 สูบ อันเลื่องลือของม้าลำพองประสบความสำเร็จมาอย่างล้นหลาม เช่น เสื้อสูบทำมุม 65 องศาระหว่างกัน, ความจุ 6.5 ลิตร, ดรายซัมพ์ และหัวฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ขุมพลังนี้ถูกออกแบบให้ทำแรงบิดสูงสุดได้ที่รอบต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่สูญเสียสัมผัสแห่งพละกำลังที่ต่อเนื่อง เป็นปกติของเครื่องยนต์ V12 ไม่มีระบบอัดอากาศจากเฟอร์รารี่ 80 เปอร์เซ็นต์ของแรงบิดมีให้ใช้ที่รอบต่ำเพียง 2,100 รอบ/นาที และสูงสุด 716 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที รีดพละกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 725 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ/นาที
ชุดเกียร์ DCT 8 จังหวะ รุ่นใหม่ มอบสมรรถนะที่เหนือกว่าขณะเร่งความเร็ว เกียร์ทั้ง 8 สปีด ถูกออกแบบให้มอบประสบการณ์อันผ่อนคลายเมื่อขับขี่ทางไกล มีระบบปลดการทำงานของเครื่องยนต์และชุดเกียร์ออกจากกันเมื่อถอนคันเร่ง เพื่อมอบความราบรื่นนุ่มนวลขณะขับขี่ได้มากขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการแทร็กชั่นใดๆ รวมไปถึงขณะเหยียบเบรกด้วย
มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ (ADAS) หลายรายการ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแอ๊กทีฟ (Adaptive Cruise Control-ACC), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Brake System-AEB), ระบบ เปิด/ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam-HBA/HBAM), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning-LDW), ระบบรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist-LKA), ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Detection-BSD), ระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert-RCTA), ระบบแจ้งเตือนป้ายสัญลักษณ์จราจร (Traffic Sign Recognition-TSR), ระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้า (Driver Drowsiness and Attention-DDA) และกล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง (NSW) รวมทั้งระบบควบคุมรถขณะอยู่ในทางลาดชัน (Hill Descent Control-HDC)
มีเทคโนโลยีช่วงล่างแบบแอ๊กทีฟของเฟอร์รารี่ ทำงานด้วย True Active Spool Valve (TASV) ของระบบ Multimatic เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ในตลาด ระบบกันสะเทือนแบบใหม่นี้มีข้อดีหลายประการ จากการผสานการสั่งงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับแดมเปอร์ไฮดรอลิก มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าตัวถังและล้อสามารถควบคุมได้แบบแอ๊กทีฟด้วยการสั่งการที่เหนือกว่าและที่ความถี่สูงกว่าระบบอะแดปทีฟหรือกึ่งแอ๊กทีฟแบบดั้งเดิม
เทคโนโลยีนี้ช่วยปรับสมรรถนะการเข้าโค้งให้เหมาะสมที่สุดด้วยการกระจายความแข็งแบบแปรผันและต่อเนื่อง ตลอดจนลดแรงเหวี่ยงลงได้แบบแอ๊กทีฟ (ลดลงต่ำสุด 10 มม.) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของแรงด้านข้างที่กระทำต่อยางสูงสุด และความสมดุลระหว่างโอเวอร์และอันเดอร์สเตียร์ การควบคุมความถี่สูงจะควบคุมทั้งการเคลื่อนไหวของตัวถังและการเคลื่อนที่ของล้อ ช่วยลดโอกาสพลิกคว่ำและยกตัว รวมทั้งดูดซับความขรุขระของพื้นถนน
การออกแบบตัวถังขึ้นใหม่ทั้งหมด สามารถใส่ประตูหลังแบบบานพับอยู่ด้านหลัง (Welcome Doors) เข้าไปได้ ทำให้สามารถเข้า-ออก รถได้อย่างง่ายขึ้น ช่วยให้รถมีขนาดกะทัดรัด
ห้องโดยสารมาพร้อมกับเบาะไฟฟ้าแบบทำความร้อนได้ทั้ง 4 ที่นั่ง ที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาดใหญ่สุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยมีมา เบาะหลังพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระได้ จากรูปแบบของรถ ทำให้มีตำแหน่งการขับขี่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในรถได้เหนือกว่าเฟอร์รารี่รุ่นอื่น แต่การจัดวางยังคงเป็นแบบเดียวกับเฟอร์รารี่ทุกคัน นั่นคือตำแหน่งการขับขี่กระชับและใกล้กับพื้น ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวของรถ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาให้เป็นมาตรฐาน เช่น ชุดเครื่องเสียง Burmester มีออปชั่นสุดพิเศษให้เลือก รวมทั้งหนัง Alcantara แบบใหม่ ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ผ่านการรับรอง
สำหรับราคาแม้ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ที่แน่ๆ คันละ 40 ล้านบาทขึ้นไป แต่จะกว่าต้นๆ หรือปลายๆ ต้องรอลุ้น
นายพล
