‘สตาร์เกเซอร์’ มินิเอ็มพีวี เมื่อ ‘ฮุนได’ มาลุยเอง

‘สตาร์เกเซอร์’ มินิเอ็มพีวี เมื่อ ‘ฮุนได’ มาลุยเอง

‘สตาร์เกเซอร์’ มินิเอ็มพีวี เมื่อ ‘ฮุนได’ มาลุยเอง

ถือว่าเป็นรถยนต์แบรนด์คุณภาพไม่น้อยหน้าใครอีกยี่ห้อ สำหรับค่าย ฮุนได แบรนด์ดังจากเกาหลี

แม้ว่าที่ผ่านมาสะดุดหัวทิ่มไปบ้าง หลังจากตั้งตัวแทนจำหน่ายในไทย แล้วก็เลิกไป ทำเอาลูกค้างงไปพักนึง กลับมาให้รายใหม่มาขาย ก็ยังไม่ใช่ มีเสียงบ่นเรื่องราคา

แต่มาล่าสุด ฮุนได จากเกาหลีมาทำตลาดเองมาขายเอง ใช้ชื่อว่า ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) แถมงานนี้ปรับโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ให้มีดีไซน์ล้ำสมัยมากขึ้น

Advertisement

หลังจากเปิดตัว ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งล่าสุด ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ไม่รอช้าเดินหน้าจัดทริปทดสอบรถยนต์สำหรับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกต่อทันที มุ่งสู่ภาคใต้ เส้นทางภูเก็ต-พังงา เพื่อให้ลองสัมผัสกับมินิเอ็มพีวีรุ่นล่าสุด ทีเด็ดใหม่ที่ฮุนไดหมายมั่นปั้นมือว่าจะเข้ามาเจาะตลาดนี้ให้ได้

สำหรับเส้นทางทดสอบระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร บนเส้นทางทั้งทางราบและทางโค้ง

Advertisement

ทำให้สัมผัสได้ถึงสมรรถนะ และรูปร่างหน้าตาออกแนวเส้นโค้งที่คม (One Curve Design) มาพร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED ออกแบบห้องโดยสารให้ดูกว้างขวาง ช่องเก็บของมีมากกว่า 30 ช่อง อุปกรณ์สื่อสารสามารถชาร์จไฟได้พร้อมกันผ่านที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และช่อง USB มีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

เครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยีสมาร์ทสตรีม เอ็มพีไอ ขนาด 1.5 ลิตร (Smartstream 1.5 MPI) ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที (IVT) ถือว่าไปได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวา ตามสไตล์รถครอบครัว

สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย อีโค (Eco), นอร์มอล (Normal), สปอร์ต (Sport) และสมาร์ท (Smart) โดยรูปแบบสมาร์ทจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ เช่น ถ้าเหยียบยาวๆ นานๆ ก็จะปรับไปโหมดสปอร์ตโดยอัตโนมัติ ถ้าเหยียบๆ ยกๆ ก็ไปอีโค

มีระบบ ฮุนได สมาร์ทเซนส์ (Hyundai SmartSense) ระบบความปลอดภัยค่อนข้างครบ อาทิ ระบบช่วยเหลือและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (FCA) และระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถในจุดอับสายตา (BCA) จะขาดก็เพียง อแดพทีฟ ครุยส์คอนโทรล

ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ (Trend), สไตล์ (Style), สมาร์ท 6 (Smart 6) และสมาร์ท 7 (Smart 7) พร้อมทางเลือกสีตัวถังหลายรูปแบบ ประกอบด้วย สีดำ มิดไนต์ แบล๊ก เพิร์ล (Midnight Black Pearl), สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล (Creamy White Pearl), สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก (Magnetic Silver Metallic) และสีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก (Titan Grey Metallic)

ราคาเริ่มต้น รุ่น Trend (เทรนด์) 769,000 บาทรุ่น Style (สไตล์) 829,000 บาท รุ่น Smart 7 (สมาร์ท 7 ที่นั่ง) 869,000 บาท และรุ่น Smart 6 (สมาร์ท 6 ที่นั่ง) 889,000 บาท หลังคาสีดำเพิ่ม 20,000 บาท สำหรับรุ่น Smart 6 เฉพาะตัวถังสีขาวและสีเงินเท่านั้น

ภาพรวมถือว่าเป็นรถยนต์มินิเอ็มพีวีสำหรับครอบครัวเล็กๆ โดยเฉพาะรุ่น 6 ที่นั่ง เข้าออกสบาย นั่งแถว 3 ได้ไม่อึดอัด เพราะมีที่ให้ยืดแข้งยืดขาได้

อุปกรณ์ต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก ความกว้างขวาง ความเงียบในห้องโดยสาร เรื่องราคา น่าจะสอบผ่านหมด

เหลือเพียงเรื่องบริการหลังการขาย ตอนนี้มีศูนย์บริการประมาณ 25-30 ราย เชื่อว่าทางฮุนไดมาลุยเองขนาดนี้ คงอ่านเกมออกว่าควรต้องสู้อย่างไรให้โดนใจตลาดเมืองไทย

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image