ทดสอบ ‘ซีวิค’ใหม่ RS 1.5 เทอร์โบ ฮอนด้าเปิดตัวมี.ค.นี้

นับถอยหลังใกล้สิ้นสุดการรอคอย สำหรับสาวกฮอนด้า ซีวิค เพราะทางค่าย ฮอนด้า เตรียมแนะนำ ซีวิค เจนเนเรชั่น 10 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้แน่นอน และพร้อมทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าชาวไทยได้ทันที

สำหรับรถรุ่นนี้ ถือเป็นโมเดลที่ขายดีของฮอนด้า หลังจากเจนเนเรชั่นที่ 1-9 ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 43 ปี ฮอนด้า ซีวิค ครองใจลูกค้าทั่วโลกไปแล้วกว่า 23 ล้านคัน และแค่โมเดลล่าสุด (เจนเนเรชั่นที่ 9) เพียงรุ่นเดียวครองใจลูกค้าไปถึง 710,000 คัน ถือว่า ไม่ธรรมดา

หลังจากเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ทีมงาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ ปิดแทรก ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้ สื่อมวลชนบ้านเราได้สัมผัสรถรุ่นนี้ กับคนละ 2 รอบสนามฯ แบบพอกระตุ้นต่อมยาก แต่สร้างความประทับใจให้กับบรรดาสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบครั้งนี้ รวมทั้ง “ประชาชาติธุรกิจ”

รูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปของ ซีวิค เวอร์ชั่นนี้ ถือว่าลงตัวที่สุด ด้วยรูปทรงหน้าต้าแบบสปอร์ต โฉบเฉี่ยวตังแต่หัวจรดท้าย มองปราดเดียว ให้ความรู้สึกของกลิ่นอายของรถสปอร์ต คูเป้ เข้ามาใส่ไว้ หน้าตาดูสปอร์ตแปลกตา โฉบเฉี่ยวตั้งแต่หัวจรดท้าย ชัดเจนที่เสาซี (C-Pillar) ออกแบบลาดเอียงให้ทรงคล้ายๆ รถคูเป้เลยทีเดียว ด้วยแฟลตฟอร์มใหม่ ด้วยการยืดมิติของตัวถังให้ยาวกว่าเดิม 25 มม. เป็น 4,630 มม.

Advertisement

ส่วนฐานล้อนั้น ฮอนด้า ได้ขยายเพิ่มอีก 30 มม. เป็น 2,700 มม. ความกว้าง 1,799 มม. เพิ่มขึ้น 50 มม. แล้ว ตั้งใจกดความสูงให้ลดลงมาถึง 20 มม. เป็น 1,416 มม. ทำให้รูปทรงรถคันนี้ จะมองว่าเป็น สปอร์ต คูเป้ หรือ สปอร์ตซาลูนก็ได้ทั้ง 2 แบบ

จากการออกแบบดังกล่าว ไม่ได้ทำให้พื้นที่ของห้องโดยสารคับแคบ โดยเฉพาะในตำแหน่งห้องโดยสารด้านหลัง ที่มีเพื่อที่เหลือเฟือทั้งเฮดรูมและเลกรูม ส่วนเส้นสายบนตัวถังนั้นก็ชัดเจน ช่วยเพิ่มมิติของตัวรถบ่งบอกถึงความปราดเปรียว และพร้อมทะยานไปข้างหน้า
ซีวิคเวอร์ชั่นที่จะเปิดตัวกลางเดือนมีนาคมนี้มี ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย กับ 2 เครื่องยนต์หลักคือ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 2 รุ่น และ 1.8 ลิตร อีก 2 รุ่น

Advertisement

และไฮไลต์การทดสอบครั้งนี้ ฮอนด้าเลือกนำรุ่น ท็อป อย่าง ซีวิค 1.5 เทอร์โบ หรือ ซีวิค อาร์เอส ที่จัดแต่งมาครบมาให้สัมผัส

ส่วนประสบการณ์จากการขับขี่ จับ ด้วยระยะทางที่ วิ่ง 2 รอบในแทร็กฯ ครั้งนี (รอบละ4.5กิโลเมตร) ต้องชมว่า ฮอนด้า สร้างความแตกต่าง จากรุ่นเดิมได้อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ แต่จากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ หรือ VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง “ซีวีที” 7 สปีด

การทดสอบฮอนด้าให้ผู้สื่อข่าวได้ลอง 2 รอบสนาม (หนึ่งรอบยาว 4.5 กิโลเมตร) กับเวลาอันน้อยไปนิด แต่เชื่อว่าหลังจากการเปิดตัวน่าจะได้ทดสอบยาวๆ อีกครั้ง การตอบสนองของรถคันนี้ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ทำได้ดีมากจากรุ่นก่อน การทำงานประสานกันระหว่างเครื่องกับเกียร์แบบซีวีที ที่แทบจะไม่มีรอยต่อที่ชัดเจน

ส่วนความเร็วไม่ได้ขึ้นไปปรู๊ดปราด เกินกว่าสภาพการใช้งานจริงบนท้องถนน แม้ว่าจะขับใน แทร็ก วิ่งอยู่ราวๆ120-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น จังหวะเข้าโค้งถือว่ารถให้น้ำหนักมาดี เข้าโค้งแรงๆ รถก็แก้อาการกลับมาได้อยู่ (ต้องไม่ลืมว่าขับในแทร็กฯ ที่สนามซัพพอร์ตไว้ระดับหนึ่ง)

หลังจากสิ้นสุดการทดสอบ เหลือบไปเห็น ฮอนด้า ยังได้นำระบบเบรกมือแบบไฟฟ้ามาใส่ให้กับ ซีวิค อาร์เอส คันนี้ด้วยกับระบบ “รีโมท เอนจิ้น สตาร์ท” (Remote Engine Start) ที่สั่งสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบปรับอากาศก่อนที่จะเข้าไปนั่งในรถ ได้ด้วยรีโมทจากภายนอก ในระยะห่างประมาณ 10 เมตร และเกียร์จะต้องอยู่ในตำแหน่งตัว P จึงจะสั่งการได้

ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไว้รอ “ฮอนด้า” เปิดตัวอย่างเป็นทางการราวกลางเดือนมีนาคม และจัดทริปทดสอบ “ประชาชาติธุรกิจ” นำมาเล่าอย่างเต็มๆ โปรดติดตามในตอนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image