| ผู้เขียน | นายพล |
|---|
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
ปรับใหม่ 3 สไตล์
ตลาดรถกระบะดัดแปลง หรือพีพีวี ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน โดยดัดแปลงรถกระบะเป็นรถอเนกประสงค์ มีพื้นฐานเป็นปิกอัพ ในบ้านเราตอนนี้มาถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ก่อนรถไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในตลาดนี้นอกจากจะมีโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ (FORTUNER) แล้ว ระยะหลัง อีซูซุ มิวเอ็กซ์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต และนิสสัน เทอร์ร่า ก็เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ประเภทนี้กันอย่างถึงพริกถึงขิง
จุดเด่นของรถประเภทนี้ นอกจาก อึด ถึก ทน ขนทั้งคน ขนทั้งของ ลุยไปได้ทุกที่ได้แล้ว ยังมีในเรื่องอุปกรณ์สะดวกสบาย เทคโนโลยีทันสมัย เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้ารถยุโรปรุ่นต้นๆ กันเลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำแบบนี้ได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถปิกอัพในบ้านเรา ทำให้ภาษีถูก เมื่อมาดัดแปลงเป็นรถพีพีวี ราคาถึงไม่โดดมาก ในขณะที่ใส่ลูกเล่นได้แพรวพราว
อย่างล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดรถพีพีวีบ้านเรา ไปจบที่ 5,200 คัน โดยมี อีซูซุ มิวเอ็กซ์ เป็นผู้นำด้วยยอดขาย 2,007 คัน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 1,561 คัน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 1,164 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต 303 คัน และนิสสัน เทอร์ร่า ปิดท้ายขบวนที่ 165 คัน
ส่วนตัวเลขยอดขายครึ่งปี มกราคม-มิถุนายน 2566 มียอดขายรวม 33,267 คัน ไล่ตามลำดับ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ 11,953 คัน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
11,762 คัน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 6,270 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต 2,593 คัน และนิสสันเทอร์ร่า 689 คัน เรียกได้ว่า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์จี้ติด มิวเอ็กซ์ แบบที่เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
ล่าสุด ฟอร์จูนเนอร์ หวังจะไล่แซง มิวเอ็กซ์ ให้ได้ จึงออกรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาพร้อมกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ จีอาร์-สปอร์ต (GR-Sport) เลเจนเดอร์ (LEGENDER) และลีดเดอร์ (LEADER) พร้อมทั้งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “อเล็กซ์ เรนเดลล์” ซีอีโอ Environmental Education center (EEC) องค์กรรณรงค์เรื่องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสะท้อนภาพคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
สำหรับ รุ่น GR-Sport เสริมภาพลักษณ์ด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง รายละเอียดที่ใส่เพิ่มเติม ได้แก่ 1.เครื่องยนต์ 2.8 จีดี ซุปเปอร์ เพาเวอร์ (GD Super Power) ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) 2.หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ แอปเปิลและแอนดรอยด์ แบบไร้สาย 3.ระบบช่วยเตือนลมยาง 4.ช่วงล่าง โมโนทิวบ์ (Monotube) ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ 5.ระบบความปลอดภัย โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ (Toyota Safety Sense) ระบบความปลอดภัยก่อนการชน-ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ 6.อุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น สมาร์ทคีย์ – พุช สตาร์ต จีอาร์ (Smart Key – Push start GR) คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง
รุ่น LEGENDER รุ่นยอดนิยม เครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยไฮเทคเดิม เพิ่มเติมคืออุปกรณ์ 1.หน้าจอ 9 นิ้ว รองรับแอปเปิลและแอนดรอยด์แบบไร้สาย 2.ระบบช่วยเดือนลมยาง 3.เครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ซิกมา โฟร์ ซิสเต็ม (Sigma 4 system) 4.ช่วงล่างปรับจูน
พิเศษเฉพาะรุ่น LEGENDER เพิ่มความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน 5.ระบบความปลอดภัย โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับลดความเร็วอัตโนมัติ
ส่วนรุ่น LEADER ดีไซน์พรีเมียม เพิ่มอุปกรณ์ 1.ไวร์เลส ชาร์จเจอร์ เฉพาะเกรด V 2.ระบบช่วยเตือนลมยาง 3.เครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ Sigma 4 system 4.ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา (PVM)
รุ่น Leader มี 3 รุ่นย่อย รุ่น 2.4 Leader G เกียร์อัตโนมัติ 1,375,000 บาท รุ่น 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ 1,505,000 บาท รุ่น 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,575,000 บาท รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,618,000 บาท รุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,688,000 บาท รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,810,000 บาท รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,874,000 บาท รุ่น GR-Sport มีรุ่น 2.8 GR-Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,939,000 บาท
ถือว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์จากค่ายญี่ปุ่นอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายแพงถึงขั้นรถยุโรป
นายพล
