‘มิตซูบิชิ’ ปล่อยทีเด็ด ‘ไทรทัน’ ขับ 2 ยกสูง 4 ประตู

 เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา วงการรถยนต์ปิกอัพเมืองไทยฮือฮาอีกครั้ง เมื่อค่ายมิตซูบิชิ เปิดตัวออลนิว มิตซูบิชิ ไทรทันหรือ แอล 200 (L200) รถกระบะขนาด 1 ตัน ออกแบบใหม่ทั้งคัน 

เป็นการเปิดตัวในรอบ 9 ปี ประกาศราคาและเริ่มจำหน่ายในไทยเป็นที่แรกในโลก ก่อนเตรียมเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียนและโอเชียเนีย มีกำหนดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ในช่วงต้นปี 2567 

รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ ส่วน ออลนิว ไทรทัน เป็นรถกระบะเจเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส 

Advertisement

มีตัวถังให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ได้แก่

ตัวถังดับเบิล แค็บ เบาะ 2 แถว ซิงเกิล แค็บ หรือตอนเดียว มีเบาะคู่หน้า และตัวถังเมกะ แค็บ หรือตอนครึ่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ช่วยให้ปรับเอนเบาะคู่หน้าได้สะดวกขึ้น

โครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดพัฒนาขึ้นใหม่ มีคานขวางแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่ง ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) เสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนสูงขึ้น รองรับการบรรทุกหนัก ช่วยรับและกระจายแรงในกรณีเกิดการปะทะ 

Advertisement

เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ เพาเวอร์ (Hyper Power) พัฒนาขึ้นใหม่ พละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน วีจี เทอร์โบ (VG Turbo) ช่วยควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ 

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ และเพิ่มความสะดวกสบาย

ออลนิว ไทรทัน มีรุ่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น ดับเบิล แค็บ และระบบ Easy Select 4WD สำหรับรุ่นซิงเกิล แค็บ มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง ช่วยยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง

ระบบ Super Select 4WD-II ในออลนิว ไทรทัน มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ) พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)

สำหรับ ระบบ Easy Select 4WD สามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4L (สำหรับการขับขี่ด้วยอัตราทดความเร็วต่ำ) ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย

ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ได้รับการติดตั้งพร้อมกับระบบ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้สมดุล

ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอ๊กทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น 

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) มาพร้อมกับระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ป้องกันรถถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน 

ช่วงล่างพัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้า ทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่นกว่าเดิม แท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนพัฒนาให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมด้วยโช้กอัพใหญ่ขึ้น 

การออกแบบด้านหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ ไดนามิก ชิลด์ (Dynamic Shield) เพื่อต้องการสะท้อนสมรรถนะอันทรงพลัง เสริมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟส่องสว่างหน้า แบบสามมิติ กระบะท้ายออกแบบให้กว้างมากขึ้น ไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง สะท้อนความหนักแน่นแข็งแกร่ง

การออกแบบภายในห้องโดยสารและแผงควบคุม ภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงแข็งแกร่ง ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ตกแต่งด้วยโครเมียมหลายส่วนเพื่อเน้นให้ดูทันสมัย

แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางสมาร์ทโฟน ช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม 

กระบะตอนท้ายออกแบบให้ระยะความสูงของกระบะจากพื้น ต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มิลลิเมตร อยู่ที่ 820 มิลลิเมตร พร้อมขยายพื้นที่ด้านบนของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น เสริมความแข็งแรงด้วยเฟรม เพื่อให้วางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้สะดวกขึ้น

เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบให้ช่วยหนุนแผ่นหลังส่วนล่าง ขณะที่พื้นที่ช่วงไหล่มีรูปทรงเปิดกว้างเพื่อความสบายในการขยับตัว ช่วยลดความเหนื่อยเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระยะของเบาะตรงกับตำแหน่งสะโพกขยับสูงขึ้น เพื่อช่วยปรับสรีระขณะขับขี่ให้อยู่ในท่าตรง 

การเข้าและออกจากห้องโดยสารทำได้ง่ายขึ้นด้วยการออกแบบเสาด้านหน้าใหม่ เป็นแนวตรงมากขึ้น ช่วยให้เปิดประตูได้กว้างขึ้น เพิ่มพื้นที่บันไดข้างให้ใหญ่ขึ้น เพื่อลดโอกาสลื่นไถล 

 

มีระบบ ออลนิว ไทรทัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เทคโนโลยีความปลอดภัย อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) 

รุ่นซิงเกิล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 699,000 บาท รุ่นดับเบิล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 820,000 บาท รุ่นดับเบิล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท

หลังจากมีโอกาสได้ทดลองขับรุ่นดับเบิล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาจะเป็นเหลี่ยมเป็นมุมมากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง หลังจากรุ่นที่แล้วจะออกแนวมนๆ

รุ่นนี้ถือว่าเหมาะกับทางเรียบมาก สมรรถนะการขับขี่ยังคงไว้ใจได้ ช่วงล่างแน่น ยามกดคันเร่งเครื่องยนต์ตอบสนองดี การควบคุมพวงมาลัยเซตมาดี เบาะนั่งสบาย เสียงในห้องโดยสารเงียบใช้ได้ 

ชอบเทคโนโลยีบนมาตรวัด จะบอกชื่อถนนที่กำลังขับผ่าน และการใช้งานมาตรวัดอื่นๆ ใช้งานง่าย

โดยรวมเป็นรถปิกอัพที่ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของคุณภาพไว้ได้ดี และเชื่อว่าจะส่งออกไปขายต่างประเทศได้ดีเหมือนรุ่นเดิมๆ 

แต่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรถปิกอัพในประเทศไทยได้เพิ่มแค่ไหน เป็นอีกเรื่อง เพราะทราบกันดีว่าตลาดรถประเภทนี้ในบ้านเราแข่งกันดุเดือดแค่ไหน

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image