‘ฟอร์ด’ลุยรถขับอัตโนมัติ ชี้อีก5ปีเริ่มใช้งานทั่วโลก

นายมาร์ค ฟีลด์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดเผยว่า แผนการขยายธุรกิจของฟอร์ดเพื่อก้าวไปสู่การเป็นบริษัทยานยนต์และการสัญจรเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในวันนี้ ฟอร์ดได้เผยโฉมรถกระบะรุ่น F-150 รุ่นใหม่ พร้อมประกาศการกลับมาของฟอร์ด เรนเจอร์ ในอเมริกาเหนือ และฟอร์ด บรอนโค ในตลาดโลก และเผยวิสัยทัศน์สำหรับเมืองแห่งอนาคต ในงานแสดงรถยนต์นานาชาติแห่งอเมริกาเหนือ (North American International Auto Show) รวมถึงการประกาศแผนขยายบริการรถรับส่งมวลชนของชาร์รอต (Chariot) ในอีก 8 เมือง

16128611_1426164914084087_806162640_n

 

นายมาร์ค ฟีลด์ส กล่าวว่า ฟอร์ดมีแผนลงทุน 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 13 รุ่น ในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมถึงฟอร์ด F-150 ไฮบริด และฟอร์ด มัสแตง ไฮบริด รถตำรวจแบบไฮบริดสำหรับขับไล่ล่า 2 รุ่น รถตู้ทรานซิท คัสตอม ปลั๊กอิน ไฮบริด รถเอสยูวีไฟฟ้าเต็มรูปแบบวิ่งได้อย่างน้อย 300 ไมล์ และรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบมาตรฐานระดับ 4 ของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของสหรัฐอเมริกา ไม่มีทั้งพวงมาลัย คันเร่ง และเบรก สำหรับการพาณิชย์ในปี พ.ศ.2564 เพื่อการบริการรถเรียกสาธารณะ หรือบริการใช้รถยนต์ร่วมกัน

Advertisement

ฟอร์ด2

และว่า การเปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบฟิวชั่นไฮบริด เจนเนอเรชั่นใหม่ เป็นแผนการขั้นต่อไปของฟอร์ดในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบให้สำเร็จภายในปี พ.ศ.2564 การจัดตั้งทีมซิตี้ โซลูชั่นส์ (City Solutions) เพื่อทำงานร่วมกับเมืองหลักต่างๆ ทั่วโลกในการลดปัญหาจราจรติดขัด และช่วยให้ผู้คนสัญจรได้อย่างง่ายดายขึ้น

“ฟอร์ดจะเริ่มจำหน่ายฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะขนาดกลาง ในอเมริกาเหนืออีกครั้งในปี พ.ศ.2562 และฟอร์ด บรอนโค รถเอสยูวีขนาดกลาง จะกลับมาจำหน่ายทั่วโลกในปี พ.ศ.2563 รถทั้ง 2 รุ่นจะผลิตที่โรงงานฟอร์ดที่เมืองเวย์น รัฐมิชิแกน” นายมาร์ค ฟีลด์ส กล่าว

Advertisement

ฟอร์ด4

นายโจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด อเมริกา กล่าวว่า นอกเหนือจากการพัฒนาด้านยานยนต์ ฟอร์ดกำลังทำงานร่วมกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกเพื่อช่วยแก้ปัญหาการสัญจรที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาการจราจรที่ติดขัดและมลภาวะทางอากาศ ทีมซิตี้ โซลูชั่นส์ ของฟอร์ด เป็นทีมเพียงหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมยานยนต์ กำลังทำงานร่วมกับเมืองต่างๆ ทั่วโลก ร่วมมือกับมูลนิธิ บลูมเบิร์ก ฟิแลนโทรปีส์ (Bloomberg Philanthropies) และเครือข่ายนายกเทศมนตรีทั่วโลกของมูลนิธิในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย สำหรับเมืองแห่งอนาคตของฟอร์ดให้ความสำคัญกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาการสัญจรในระยะสั้น รวมถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและรถยนต์ไฟฟ้า การใช้รถยนต์ร่วมกัน การเรียกรถสาธารณะ และรถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ กับระบบโครงสร้างพื้นฐานในเมือง เพื่อสร้างระบบนิเวศในการเดินทาง

The City of Tomorrow, Decades and Decades From Now
The City of Tomorrow, Decades and Decades From Now

“ในอีก 5 ปีนับจากนี้ ฟอร์ดคาดว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะเริ่มใช้งานในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติคันแรกของฟอร์ดจะเปิดตัวในปี พ.ศ.2564 ด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถผลิตรถยนต์ได้จำนวนมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันในระยะเวลาอีก 15 ปีนับจากนี้ รถยนต์จะสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์คันอื่นและระบบขนส่งของเมืองต่างๆ ได้ และฟอร์ดจะติดตั้งโมเด็มในรถยนต์ของฟอร์ด 20 ล้านคันทั่วโลกใน 5 ปีข้างหน้า” นายโจ ฮินริคส์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image