| ผู้เขียน | นายพล |
|---|
ไฮลักซ์ รีโว่ ขอโชว์พลัง 4×4
ตะลุยเส้นทางออฟโรด
ตลาดรถยนต์ปี 2566 สะท้อนสภาพเศรษฐกิจได้ชัดเจน เมื่อเทียบกับปี 2565 ปีที่แล้วมียอดขายรวม 775,780 คัน ลดลง 9% แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 292,505 คัน เพิ่ม 10% รถเพื่อการพาณิชย์ 483,275 คัน ลดลง 17% รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลงพวกพีพีวี) 325,024 คัน ลดลง 29% รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 264,738 คัน ลดลง 32% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการผลิตและขนส่งชะลอตัวค่อนข้างแรง
พอเปิดศักราชใหม่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แชมป์ยอดขายตลาดรถยนต์รวม แชมป์ยอดขายตลาดรถเก๋ง และรองแชมป์ตลาดปิกอัพรวม ไม่รอช้า เดินหน้าบุกตลาดรถปิกอัพ จัดกิจกรรมท้าพิสูจน์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่
จัดกิจกรรม รีโว่ ออฟโรด เพรส ทิป ระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค.67 ที่ผ่านมา เส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ จัดเส้นทางวิ่งบริเวณเขาแผงม้า ขับเส้นทางออฟโรด
งานนี้โตโยต้ายืนยันว่า ไฮลักซ์ รีโว่ ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะ 4 คูณ 4 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% มั่นใจในจุดแข็ง ทั้งเรื่องเครื่องยนต์ 1GD-Kai ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อ ชม. ในเวลา 10 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 7.8 ลิตรต่อ 100 กม.
นอกจากนี้จุดเด่นที่โตโยต้าสำรวจมาคือ มีออปชั่นสำหรับสายลุยครบครัน ซ่อมง่าย ทนทาน แบรนด์เชื่อถือได้ มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ปัจจุบันนี้ ไฮลักซ์ รีโว่ มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ 1.บี-แค็บ หรือกระบะตอนเดียว 2.ซี-แค็บ กระบะมีแค็บด้านหลัง 3.ดี-แค็บ กระบะ 4 ประตู 4.ร็อคโค่ แต่งหล่อขึ้นมาเล็กน้อย มีทั้งรุ่นมีแค็บ 2 ประตู และรุ่น 4 ประตู และ 5.รุ่นท็อป จีอาร์ สปอร์ต มาพร้อมชุดแต่งชุดใหญ่ไฟกะพริบจากโรงงาน
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift
โตโยต้าเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของระบบการทำงานระบบ 4×4 ของรีโว่ สามารถเปิดปิดระบบ เลือกใช้ระหว่างระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อได้ ส่วนปิกอัพยี่ห้ออื่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะเปิดใช้งานตลอดเวลา แม้ว่าจะสามารถปรับระบบได้ตามสภาพถนน แต่จะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า
นอกจากนี้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ชุดเฟืองท้ายแบบเปิดของรีโว่ จะช่วยให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้เต็ม 100% เพื่อให้ล้อขับเคลื่อนแต่ละข้าง เมื่อแต่ละล้อเจอแรงเสียดทานต่างกัน ความเร็วของล้อจะหมุนไม่เท่ากัน
ระบบช่วงล่างหลังเป็นแบบแหนบซ้อน จะมีจุดเด่นด้านความทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้ดี และเกาะถนนได้ดีเมื่อมีน้ำหนักบรรทุก แม้ว่าไม่นุ่มนวลเท่าแบบคอยล์สปริง แต่รีโว่พยายามปรับไม่ให้แข็งจนเกินไป เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง
มาพร้อมความปลอดภัย อาทิ ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC น่าจะเหมาะกับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการใช้งานหนัก ใช้งานในพื้นที่ลาดชัน
อุปกรณ์ภายใน ที่สำคัญมีแผ่นกรองระบบปรับอากาศ PM2.5
สำหรับการจัดจำหน่ายไฮลักซ์ รีโว่ ล่าสุด แบ่งเป็น Hilux REVO GR Sport Hi-Floor 4×4 มี 1 รุ่น ราคา 1,324,000 บาท Hilux REVO GR Sport Lo-Floor มี 1 รุ่น ราคา 889,000 บาท Hilux REVO Rocco มี 4 รุ่น ราคา 971,000-1,281,000 บาท Hilux REVO Prerunner Hi-floor 4×4 มี 5 รุ่น ราคา 904,000-1,207,000 บาท Hilux REVO Hi-Floor Pre-Runner มี 10 รุ่น ราคา 740,000-1,032,000 บาท Hiux REVO Z-Edition มี 8 รุ่น ราคา 629,000-805,000 บาท Hilux REVO Standard Cab มี 8 รุ่น ราคา 554,000-766,000 บาท
โดยรวมเป็นรถปิกอัพที่รู้จักกันดีพอสมควรอยู่แล้วในแง่มุต่างๆ อาจมีทั้งคนชอบและไม่ชอบเป็นเรื่องปกติ ขึ้นกับความพอใจแต่ละคน แต่ในด้านสมรรถนะการขับขี่สำหรับเส้นทางออฟโรด เส้นทางทุรกันดารขึ้นเขาขึ้นดอย รีโว่ไปได้สบายๆ ใช้งานบรรทุกของได้ ไม่น้อยหน้ารุ่นอื่นๆ เป็นอีกทางเลือกสำหรับสายลุยออฟโรด
