มาสด้า 3 งัดทีเด็ดใหม่ GVC เติมความนิ่ง

เลื่อนกำหนดการเปิดตัว จากปีที่แล้วมาเป็นเดือนมกราคมปีนี้ เพื่อความเหมาะสม สำหรับมาสด้า 3 ใหม่

หลายคนอาจจะบอกว่าเป็นเพียงไมเนอร์เชนจ์ แต่หลายคนก็อาจจะบอกว่าใหม่ เอาที่สบายใจของแต่ละคนก็แล้วกัน

แต่ในแง่ความเป็นจริง มาสด้า 3 รุ่นนี้ มีหลายสิ่งที่เหมือนรุ่นเดิม โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะมีความโดดเด่นเรื่องการออกแบบได้สวยงามถูกใจใครหลายคนอยู่แล้ว จึงเพิ่มการตกแต่งอีกเพียงเล็กน้อย ส่วนเครื่องยนต์ปรับปรุงจากบล็อกเดิม ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอันลือลั่นมาจากรุ่นที่แล้ว

mazda-11

Advertisement

 

แต่อีกมุม รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เรียกได้ว่าเป็นทีเด็ดใหม่ของค่ายมาสด้าเลยก็ว่าได้ นั่นคือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล หรือ GVC เทคโนโลยีแรกในกลุ่มสกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ ช่วยปรับปรุงสมรรถนะการควบคุมรถและความเงียบในห้องโดยสาร

เทคโนโลยีใหม่อื่นๆ เริ่มนำมาใช้ในเครื่องยนต์เบนซินของมาสด้าก็ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อปรับปรุงอัตราเร่งให้ตอบสนองได้ดีขึ้น และปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่โดยรวม ส่วนเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟก็มีการเพิ่มสวิตช์ ไดรฟ์ ซีเล็กชั่น (Drive Selection) เข้ามาด้วย

Advertisement

สำหรับระบบจี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล (GVC) เทคโนโลยีใหม่เพื่อการสั่งการรถโดยใช้เครื่องยนต์เสริมสมรรถนะช่วงล่าง เปิดตัวเป็นครั้งแรกในมาสด้า 3 ใหม่ โดยพยายามแสวงหาการเปลี่ยนผ่านของแรงจีให้ราบรื่นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในจังหวะเบรก เลี้ยว หรือเร่งความเร็ว มีพื้นฐานอยู่บนความคิดที่ว่าให้เครื่องยนต์นั้นช่วยเสริมประสิทธิภาพของช่วงล่าง

mazda-10

สิ่งที่ตามมาคือ ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถและมั่นใจในการขับรถมากขึ้น ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับในระยะทางไกลๆ การเปลี่ยนของแรงจีนุ่มนวลนี้ช่วยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารโคลงตัวไปมาน้อยลง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกสบาย ไม่โคลงเคลง การควบคุมรถและเสถียรภาพของรถบนพื้นผิวถนนลื่น เช่น เมื่อฝนตก หิมะตก จะยิ่งมีประสิทธิภาพขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีทีเด็ดในเรื่องของระบบความปลอดภัยใส่มาแบบเต็มๆ

ไอ-แอคทีฟเซนส์ (i-ACTIVSENSE) เทคโนโลยีความปลอดภัยของมาสด้า เป็นการใช้เรดาร์ กล้องเพื่อให้ผู้ขับได้รับรู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการชน และลดความเสียหายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

mazda-4

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (SCBS) ระบบจะตรวจจับรถหรือสิ่งกีดขวางด้านหน้าหรือด้านหลังของรถ เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยเมื่อขับรถความเร็วต่ำในเมืองหรือการจราจรหนาแน่น ทำงานอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ที่แยกกะทันหันหรือเดินผ่านด้านท้ายรถที่กำลังถอยจอดเข้าซอง รถมีความเร็วอยู่ประมาณ 10 กม./ชม. ถึง 30 กม./ชม.

ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ (ALH) เป็นระบบไฟหน้าแบบใหม่ใช้ไฟ LED แบ่งเป็น 4 ส่วน แต่ละส่วนสามารถแยกเปิด-ปิดได้ ช่วยให้ขับในเวลากลางคืนได้ปลอดภัยขึ้น

ระบบตรวจจับรถและสิ่งกีดขวางบนท้องถนน สมาร์ท เบรก ซัพพอร์ต (Smart Brake Support -SBS) จะตรวจจับด้านหน้าเมื่อขับรถและช่วยหลีกเลี่ยงการชนปะทะ ช่วยลดความเสียหายด้วยการส่งเสียงเตือนและหยุดรถอัตโนมัติใน 2 รูปแบบ การปรับโฉมครั้งนี้ขยายระดับความเร็วที่ระบบทำงานจากเดิม 15-160 กม./ชม.

ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)

ระบบ ABSM ใช้เซ็นเซอร์ประเภทเดียวกับระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) แจ้งเตือนให้คนขับเมื่อตรวจพบรถใกล้เข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งของด้านหลังรถ ช่วยให้คนขับมั่นใจว่าปลอดภัยที่ถอยออกมาจากโรงรถหรือที่จอดรถ

mazda-3

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LAS) เมื่อขับรถอยู่ที่ความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. ขึ้นไป กล้องตรวจจับด้านหน้าจะจับเครื่องหมายแบ่งเลนบนพื้นผิวถนน เมื่อระบบตรวจจับว่ารถกำลังจะเบี่ยงออกนอกเลนเท่านั้น ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้ไม่ทำงานเมื่อประเมินแล้วว่าผู้ขับตั้งใจกระทำ

ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) รับเอาข้อมูล เช่น ความเร็วและองศาของพวงมาลัย มาประมวลคู่กับข้อมูลที่ได้จากกล้องตรวจจับด้านหน้ามาตรวจสอบสภาพผู้ขับเมื่อขับด้วยความเร็วสูง และจะส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับพัก ระบบจะทำงานเมื่อความเร็วรถอยู่ที่ 65 กม./ชม. ขึ้นไป และเก็บข้อมูลว่าผู้ขับมีลักษณะการขับอย่างไรเมื่อไม่อยู่ในสภาพเหนื่อยล้า ต่อจากนั้นระบบจะเก็บข้อมูลความแตกต่างระหว่างข้อมูลที่บันทึกไว้และพฤติกรรมในขณะนั้นๆ ของผู้ขับ หากระบบตรวจได้ว่าผู้ขับอาการเปลี่ยนไป ก็จะมีสัญญาณเตือนขึ้นให้พักหยุดรถ

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) เมื่อขับรถที่ความเร็วระหว่าง 30-145 กม./ชม. เรดาร์ของระบบจะจับระยะห่างและความเร็วของรถคันหน้า ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อปรับความเร็วและระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้า ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องคอยเหยียบคันเร่งและเบรกเอง จึงลดความเหนื่อยล้าเมื่อขับรถเป็นระยะทางไกลได้ เรดาร์เซ็นเซอร์ของระบบนี้สามารถตรวจจับรถคันหน้าได้อย่างแม่นยำ

mazda-5

ส่วนความใหม่ของมาสด้า 3 นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีกระจังหน้าใหม่และซิกเนเจอร์ วิง (signature wing) สัญลักษณ์มาสด้า โฉมใหม่ใช้ไฟ LED

ด้านท้ายของรุ่นแฮตช์แบ๊ก (Hatchback) 5 ประตู กันชนหลังแบบใหม่ ส่วนกันชนท้ายของรุ่นซีดาน (Sedan) 4 ประตู จะเน้นรักษาสมดุลที่ดีกับดีไซน์ด้านหน้า

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยมี 2 สีให้เลือกคือ สีเข้มเคลือบประกายสะท้อน และขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมสีเงินมาตรฐานและดีไซน์เดิม

mazda-6

ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ต แผงควบคุมแผ่ไปถึงที่นั่งผู้โดยสารมีรูปทรงเก๋ไก๋มากขึ้น มีมิติมากขึ้น เบรกมือไฟฟ้าและกล่องเก็บสัมภาระดีไซน์ใหม่ไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับด้ามเบรกมืออีกต่อไป พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ตามแบบมาสด้าซีเอ็กซ์-9 แกนกลางเล็กลงแต่ยังคงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่าเดิมทำให้รูปทรงเฉียบคมขึ้น

สีภายในภายในมีทั้งแบบผ้าสีดำชนิดใหม่ และเบาะหนังสีดำให้เลือก เบาะหนังสีดำมาพร้อมเฉดสีแดงเข้มออกแบบใหม่

 

ออกแบบหน้าจอใหม่ แอคทีฟ ไดรฟ์ ดิสเพลย์ (Active Driving Display) และมาตรวัดต่างๆ แสดงผลให้อ่านง่ายขึ้น

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร

mazda-7

 

มาสด้า 3 ใหม่ ได้เพิ่มรุ่นซีดาน 4 ประตูอีก 1 รุ่น ดีไซน์ภายนอกยังคงเดิม แต่มาตรฐานเทียบเท่ารุ่น 5 ประตูรุ่นท็อป นอกจากนี้รุ่น 4 ประตู และ 5 ประตู ราคาจะเท่ากัน

มีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีแดง โซเรด, สีขาว สโนว์ เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเงิน อะลูมิเนียม เมทัลลิค, และเพิ่ม 3 สีใหม่ คือ สีดำเจ็ต แบล๊ค, สีเทาเมธีเออ เกรย์ ไมก้า และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู ราคา 847,000-1,119,000 บาท

ถือว่าเป็นรถเก๋งยอดนิยมแห่งยุคที่น่าจับตามอง และเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้มาสด้าพุ่งทะยานไปในโลกยานยนต์ได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร ในเมื่อสามารถผลิตรถออกมาสู้กับคู่แข่งได้ขนาดนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image