| ที่มา | คอลัมน์ โชว์รูมประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า เอ.พี.ฮอนด้าเปิดตัวรถรุ่นจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ใหม่ ได้แก่ ฮอนด้า CBR1000RR และฮอนด้า CBR1000RR SP เป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในรถคลาสเดียวกัน พร้อมดึง นิกกี้ เฮเด้น นักบิดชาวอเมริกันเจ้าของดีกรีแชมป์โลกโมโต จีพี ปี 2006 และสเตฟาน แบรดเดิล แชมป์โลกโมโตทู ปี 2011 สังกัดทีม เรด บูล ฮอนด้า เวิลด์ ซุปเปอร์ไบค์ (Red Bull Honda World Superbike) มาร่วมเปิดตัว และพร้อมให้จองเป็นเจ้าของได้ในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 วันที่ 1-9 เมษานยนนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี
นายสุชาติกล่าวว่า ความนิยมรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเภทรถสปอร์ตมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกลุ่มรถประเภทอื่น รถสปอร์ตของฮอนด้าตระกูล CBR มีชื่อเสียงด้านสมรรถนะและการควบคุมรถ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะ CBR1000RR มีจุดกำเนิดตั้งแต่ปี 1992 และมีแนวคิดการพัฒนาคือ การนำเครื่องยนต์สมรรถนะสูง และการควบคุมการขับขี่ง่าย เข้ามาไว้ด้วยกัน ฮอนด้าได้ยึดถือแนวคิดการออกแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน ฮอนด้าได้พัฒนา CBR1000RR ขึ้นมาใหม่ ให้เป็นรถซุปเปอร์สปอร์ตถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่ท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง น้ำหนักเบาลง และสามารถควบคุมได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ประกอบกับสีสันและดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์เรซซิ่งไบค์ ครั้งนี้เรายังได้นำรุ่น CBR1000RR SP รุ่นระดับท็อปมีเทคโนโลยีระดับรถใช้แข่งขันเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย
CBR1000RR ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1000 ซีซี ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาด้วยอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 กำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ ที่ 13,000 รอบต่อนาที เพิ่มเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ฝังอยู่ในแฮนเดิลบาร์ กริป (Handlebar grip) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่ได้อย่างดี
พาวเวอร์ ซีเลคเตอร์ (Power Selector) ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดของคันเร่ง HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ของฮอนด้า เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้การควบคุมรถได้อย่างราบรื่น และเอ็นจิ้น เบรก คอนโทรล (Engine Brake Control) สามารถปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานหรือผู้ใช้สามารถตั้งค่าเองได้ตามต้องการ สะท้อนภาพลักษณ์รถสปอร์ตได้อย่างลงตัวด้วยชุดไฟหน้า ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED และท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา มีสองสีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีแดง (Victory Red) และสีดำ (Mat Ballistic Black Metallic)
สำหรับรุ่น CBR1000RR SP พร้อมกับชุดสีดีไซน์ใหม่แบบ ไทร-คัลเลอร์ (Tri-color-Victory Red) ถังน้ำมันได้ถูกทำขึ้นจากวัสดุน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม ทำให้รถรุ่นนี้น้ำหนักเบากว่ารุ่นปัจจุบันถึง 17 กิโลกรัม และยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็นระบบควิก ชิฟเตอร์ (Quick shifter) เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ ระบบโช้ก โอชลินส์ (Ohlins) ทั้งหน้า-หลัง สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเบรกคู่หน้าเป็นคาลิปเปอร์เบรก โมโนบล็อก 4 พอต (Monoblock 4 POT) จากเบรมโบ (Brembo) เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มการควบคุมรถสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งได้สนุกยิ่งขึ้น
