นายวิรัตน์ ผลประดับ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ซันยอง ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ซันยองได้ปรับโฉมรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีหรู 11 ที่นั่ง รถธงของบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ นิว สตาวิค ทัวริสโม (New Stavic Turismo) ใช้เทคโนโลยีจาก เมอร์เซเดส เบนซ์ พร้อมแล้วจะให้ลูกค้าได้สัมผัสในงาน อินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึงวันที่ 9 เมษายน ณ ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ในปี 2017 นี้ สตาวิคที่จำหน่ายในเมืองไทย จะเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก 7 รายการ พร้อมกับใช้ชื่อใหม่มีคำต่อท้ายว่าทัวริสโม (Turismo) มีรายการอุปกรณ์เพิ่มขึ้น เช่น หลังคาซันรูฟ ไฟหน้า ซีนอน HID ใหม่ กล้องมองภาพทั้งหน้าและหลัง จอมองภาพพร้อมวิทยุขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่นมาพร้อมแพทเดิลชิฟใหม่ กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะเทคโนโลยีจากเมอร์เซเดส เบนซ์ มาตรวัดลมยางอัตโนมัติจากภายในตัวรถ และถุงลมนิรภัยด้านข้าง ในราคาจำหน่ายเดิม 1.78 ล้านบาท
นายวิรัตน์กล่าวว่า ทัวริสโมภายนอกกระจังหน้ารูปแบบใหม่ออกแบบให้ดูสปอร์ตขึ้น ส่วนด้านท้ายของตัวรถยังติดตั้งชุดสปอยเลอร์มาพร้อมกับไฟเบรกดวงที่ 3 สามารถบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ได้กับรางเหล็กหลังคาแน่นหนา ตามแบบฉบับไลฟสไตล์ของรถอเนกประสงค์ หรูหราด้วยชุดเพาเวอร์ซันรูฟ ภายในกว้างขวางโอ่โถงสะดวกสบายบรรจุผู้โดยสารได้ถึง 11 ที่นั่ง ให้ความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยระบบเครื่องเสียง สมาร์ท ออดิโอ (Smart Audio) จอภาพแบบ ทีช สกรีน (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว เชื่อมกับสาระบันเทิงต่างๆ ด้วย USB หรือ HDMI แผงควบคุมการสั่งงานต่างๆ ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้รถ คอนโซลกลางแยกเป็นสัดส่วนง่ายต่อการจัดเก็บสัมภาระให้เป็นระเบียบ
เครื่องยนต์ คอมมอลเรลเทอร์โบดีเซล Xdi ขนาด 1,998 CC 4 สูบ กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อมระบบอี-ทรอนิก (E-Tronic) มาตรฐานเดียวกับเมอร์เซเดส เบนซ์ ควบคุมการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ได้ที่พวงมาลัย ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ให้การทรงตัวและการยึดเกาะถนนได้ดี พวงมาลัยเพาเวอร์ชนิดปรับความหนักเบาของพวงมาลัยตามความเร็วของรถพร้อมเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบกล้องช่วยมองภาพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมกับระบบ TPMS (Tire Pressure Monitor System) คอยตรวจเช็กความดันลมยางทุกล้ออยู่ตลอดเวลาและจะส่งสัญญาณเตือนทันทีที่พบความผิดปกติของแรงดันลมยาง มีระบบความปลอดภัยในยามค่ำคืนด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบซีนอน ให้ความสว่างครอบคลุมพื้นที่การมองให้เห็นชัดเจน
มีให้เลือกทั้งในระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ และในแบบ 4 ล้อ เหมาะสำหรับผู้ใช้รถที่นิยมการท่องเที่ยวแบบ ออฟโรด รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ให้การตอบสนองที่ดี เปลี่ยนระบบขับขี่จากขับเคลื่อนสองล้อหลังไปเป็นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อได้ง่ายดาย เพียงการกดปุ่มเปลี่ยนระบบในรูปแบบชิฟท์ ออน เดอะ ฟลาย (Shift on the Fly)
นายวิรัตน์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้นำรถยนต์รุ่น แอคติยอน สปอร์ตส (Actyon Sports) เข้าทำตลาดรถกระบะสำหรับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างแบรนด์ซันยองในประเทศไทยให้ครบไลน์ผลิตภัณฑ์ รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายที่ประเทศไทย มีรูปโฉมสปอร์ตยิ่งขึ้นในแบบรถกระบะ แต่ตอบสนองการขับเคลื่อนและช่วงล่างในแบบรถอเนกประสงค์ เน้นการให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ลุยได้ทุกการเดินทาง มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 155 แรงม้า แรงบิดที่ 360 นิวตันเมตร มาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน ขณะที่แรงบิดถูกปรับจูนให้รอบเครื่องเพียง1,500-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วย 2 ทางเลือกสำหรับลูกค้า ทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ผ่านมาตรฐานยูโร 5 และยังมีแบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมด้วยมิติด้วยตัวถังขนาดกว้าง 1,910 ม.ม. ยาว 4,990 ม.ม. และสูง 1,790 ม.ม. เปิดราคาภายในงานเพียง 1,680,00 บาท สำหรับโปรโมชั่นพิเศษภายในงานครั้งนี้ ผู้สั่งจองรถทุกรุ่นจะได้รับทันทีโปรโมชั่นฟรีบำรุงรักษานานถึง 3 ปี ซันยองเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี ทุกรุ่นรับประกันอะไหล่ทุกชิ้น 4 ปี มีบริการรับส่งรถเพื่อเข้ารับบริการ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ราคาจำหน่ายรถยนต์ซันยอง ทุกรุ่น ได้แก่ นิวสตาวิคตูริสโมท็อปเวอร์ชั่น ราคา 1,780,000 บาท นิวสตาวิคทัวริสโม่ สแตนดาร์ดเวอร์ชั่น ราคา 1,680,000 บาท ซันยองนิวสตาวิคตูริสโมแบบ 4WD ราคา 1,930,000 บาท และแอคยอน สปอร์ต ราคา 1,680,000 บาท ภายในปีนี้ ทางบริษัทวางแผนขยายเครือข่ายและศูนย์บริการ จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ เพิ่มอีก 6 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสานขึ้นที่ อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ และนครสวรรค์