| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | นายพล |
ตลาดรถยนต์หรูบ้านเรา แม้ว่า 2 ค่ายยักษ์อย่าง เบนซ์และบีเอ็ม ต่างกวาดยอดขายกินส่วนแบ่งตลาดเฉพาะ 2 เจ้าก็ปาเข้าไปเกือบเกลี้ยงตลาด แต่ก็ยังมีค่ายวอลโว่ คอยสร้างสีสัน ขายได้ปีละไม่น้อยเช่นกัน เน้นกลุ่มลูกค้าที่ชอบเทคโนโลยีชั้นนำ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอยู่แถวหน้าของโลกยานยนต์ มาระยะหลังพัฒนาเครื่องยนต์ขั้นเทพ ประเภทเครื่องยนต์เล็กลง สมรรถนะดีขึ้น แถมประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกต่างหาก ในขณะที่ราคาก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ยิ่งถ้าใครไม่สนใจเรื่องราคาขายต่อ เพราะคิดว่าซื้อรถมาเพื่อใช้งานแล้วละก็ บอกได้เลยว่านี่คือทางเลือกใหม่
อย่างล่าสุด วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) แนะนำ วี40 ครอส คันทรี่ ดีโฟร์ (V40 Cross Country D4) ใหม่ หลังจากเปิดตัว วี40 ครอสส์ คันทรี่ ทีไฟว์ (V40 Cross Country T5) ไปเมื่อปี 2013 วอลโว่ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
มาปีนี้วอลโว่จึงนำเสนออีกรุ่นหนึ่ง เป็นรุ่นที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงประสิทธิภาพกับเครื่องยนต์ใหม่ดีเซล ไดรฟ์-อี พาวเวอร์เทรน (Drive-E Powertrain) นวัตกรรมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ให้ความเร้าใจในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ เทคโนโลยี ไอ-อาร์ท (i-ART) เป็นระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอัจฉริยะติดตั้งคอมพิวเตอร์เซ็นเซอร์ไว้ที่หัวฉีดของแต่ละลูกสูบ ฉีดจ่ายน้ำมันสูงสุด 9 ครั้งต่อการหมุนของเครื่องยนต์ 1 รอบ และให้แรงดันมากสุด 2,500 บาร์ (Bar)
มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมเกียร์ทรอนิก (Geartronic) และแพดเดิล ชิฟท์ (Paddle Shift) ตอบสนองได้ทันใจ และช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนเกียร์จะไหลลื่นไม่มีสะดุด ไม่เสียชื่อรถหรูจากยุโรป
และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงด้วยการเพิ่มโหมดการขับขี่ ECO+ (อีโค่-พลัส) เป็นการปรับแต่งการจ่ายเชื้อเพลิงให้สมดุลกับพฤติกรรมการขับ
วอลโว่ V40 Cross Country D4 เป็นรถแฮทช์แบ๊ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง ทัศนวิสัยการขับขี่ดี เพราะตัวถังสูงกว่า V40 ทั่วไปถึง 40 มม. ให้ความรู้สึกถึงความแกร่งพร้อมลุยดีไซน์ทันสมัย เช่น กันชนหน้าสีเข้มเพิ่มความแกร่งพร้อมลุย กระจังหน้าลายรังผึ้ง ไฟ เดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (Daytime Running Light) เฉียงขึ้นเพิ่มความทันสมัย กันชนหลังและสกิด เพลท (skid plate) หรือแถบกันรอยกันกระแทกด้านข้างและด้านหลังพร้อมตราสัญลักษณ์ Cross Country ช่วยเพิ่มความบึกบึนสไตล์ครอสคันทรี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ D4 ดีเซล ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 400 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,750-2,500 รอบต่อนาที ด้วยความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.5 วินาที ส่วนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 20 กม.ต่อลิตร ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ลงตัวมากที่สุดรุ่นหนึ่งในขณะนี้ เพราะมาแบบครบเครื่องทั้งแรงและประหยัด
การออกแบบภายในห้องโดยสาร โทนสีทันสมัย เบาะนั่งใหม่สไตล์สปอร์ตบุหนังสีทูโทน คือ สีเทา ชาโคล โซลิด (Charcoal Solid) ตัดกับสีน้ำตาล เฮเซล บราวน์ (Hazel Brown) เย็บตะเข็บเบาะด้วยสีที่ตัดกัน พร้อมตกแต่งแผงคอนโซลด้วยโทนสี ค็อปเปอร์ ดาวน์ (Copper Dawn) ทันสมัยสื่อถึงความสปอร์ต
มีระบบ เซนซัส (Sensus) ช่วยควบคุมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ เชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบลูทูธ ฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาและผ่านการเชื่อมต่อแบบบลูทูธได้
หน้าปัดแบบกราฟิก หน้าจอจะแสดงข้อมูลสำคัญ สามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอได้ถึง 3 แบบ คือ เอเลแกนซ์ (Elegance) อีโค่ (Eco) และเพอร์ฟอร์แมนซ์ (Performance)
มีเทคโนโลยีทันสมัยทั้งด้านความปลอดภัยและระบบสนับสนุนเช่นเดียวกับรถรุ่นใหญ่ ทั้งระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park assist pilot) ช่วยให้การจอดแบบขนานขอบทางง่ายดายขึ้น ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงกำหนดความเร็วและเกียร์เท่านั้น ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตราโซนิคติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ
มีระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ ซิตี้เซฟตี้ (City Safety) ซิตี้เซฟตี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อรถวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้คุณเหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากคุณไม่เหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติ
ระบบนี้เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ.2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่ ถือว่าเป็นความมั่นใจที่ทางวอลโว่กล้าประกาศออกมา เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
วอลโว่ V40 Cross Country D4 ราคา 2,099,000 บาท เป็นรถแฮทช์แบ๊ก 5 ประตู ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการทางเลือก มีรสนิยมไม่ค่อยเหมือนใคร สะท้อนภาพของผู้ที่มีความรู้ บ่งบอกถึงความเป็นคนที่มีรสนิยมรถยนต์เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ไม่เป็นรองใครในชั่วโมงนี้แน่นอน
