ฟอร์จูนเนอร์ ลีดเดอร์ เอส ทางเลือกใหม่ ‘พีพีวี’ ประหยัด

ฟอร์จูนเนอร์ ลีดเดอร์ เอส ทางเลือกใหม่‘พีพีวี’ประหยัด

ฟอร์จูนเนอร์ ลีดเดอร์ เอส
ทางเลือกใหม่‘พีพีวี’ประหยัด

มีคนถามว่าเพราะอะไรประเทศไทยถึงนิยมใช้รถกระบะหรือรถปิกอัพ รวมทั้งรถปิกอัพดัดแปลง หรือพีพีวี (Pick-Up Passenger Vehicle-PPV) กันมาก

สาเหตุเพราะอานิสงส์ของรัฐบาลในอดีตมีนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถปิกอัพ เก็บภาษีในอัตราต่ำ 

ทำให้บริษัทผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ไทยจึงเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

ส่งผลทำให้รถปิกอัพในประเทศราคาไม่แพงเหมือนรถปิกอัพในต่างประเทศ ยอดขายจึงคึกคัก เป็นได้ทั้งรถ ขนคน ขนของ ส่งผลดีไปถึงรถปิกอัพดัดแปลงหรือพีพีวี พลอยขายดิบขายดีไปด้วย จึงมีให้เลือกหลายยี่ห้อ

ADVERTISMENT

สำหรับผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ประเภทพีพีวี เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ.2547 ในนาม โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ภายใต้โครงการ IMV: International Innovative Multi-purpose Vehicle 

ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างดี เป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ประเภทพีพีวีในประเทศไทย มียอดจำหน่ายรวมกว่า 453,000 คัน (ยอดขายสะสมฟอร์จูนเนอร์ภายใต้โครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547-กันยายน 2567) 

อีกทั้งยังส่งออกจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงในด้านคุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลก 

ล่าสุด โตโยต้าแนะนำรุ่นย่อยใหม่ ฟอร์จูนเนอร์ ลีดเดอร์ เอส (FORTUNER LEADER S) รุ่นตัวล่างสุด ดีไซน์ไฟหน้าแบบ ไบ-บีม แอลอีดี (Bi-Beam LED) พร้อมเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลต์ส และไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี เสริมด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลต์ ไกดิ้ง (LED Light Guiding) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ภายในมีหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5 เบาะนั่งวัสดุผ้า กุญแจรีโมตแบบ Jack Knife Key ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า แบบกระแสสลับ AC 220 โวลต์

เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ประหยัดน้ำมัน 14.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker) 

มีระบบควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง

มีระบบความปลอดภัยค่อนข้างครบ เช่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control) ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Brake System) ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist) ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (Trailer Sway Control) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control) ดิสก์เบรก 4 ล้อ (Front & Rear Disc Brake) และกล้องมองหลัง

มีถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง (7 Airbags) โครงสร้างนิรภัย GOA (GOA Structure) พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ (Collapsible Steering Column) ELR Seatbelt 3 จุด 7 ที่นั่ง

มาพร้อมกับเทคโนโลยี ที-คอนเน็กต์ (T-Connect) เช่น Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ TheftTrack บริการตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง Geo-Fencing บริการกำหนดขอบเขตความปลอดภัย

สำหรับฟอร์จูนเนอร์ รุ่นลีดเดอร์ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,600,000 บาท รุ่น 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,530,000 บาท รุ่น 2.4 Leader G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,400,000 บาท และรุ่น 2.4 Leader S ใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 1,239,000 บาท

โดยภาพรวม ฟอร์จูนเนอร์ ลีดเดอร์ เอส ใหม่ ถือว่าเป็นรุ่นประหยัด เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการรถอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งในเมืองหรือแบบลุยๆ เพราะพื้นฐานเป็นปิกอัพ ทั้งอึดทั้งทนอยู่แล้ว

ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ แม้ว่าจะลดลงไปจากรุ่นบนๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหา ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย น่าจะกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้ว แถมราคาลดลงมา ทำให้คบหากันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

นายพล