เบนซ์ C 350e ปลั๊กอิน ไฮบริด ยนตรกรรมยุคใหม่ใจต้องถึง!

 

เปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง สำหรับค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกมาเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะรถยนต์เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างรถยนต์เสียบปลั๊กหรือปลั๊กอิน เป็นการผสมผสานระหว่างรถยนต์ใช้น้ำมันเบนซินกับรถยนต์ใช้ไฟฟ้า เสียบไฟบ้านประมาณ 3 ชั่วโมง วิ่งได้ 30 กว่ากิโลเมตร

แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเริ่มต้น แต่เชื่อว่าในอนาคตอีกไม่นานรถปลั๊กอินประเภทนี้ของเบนซ์ จะวิ่งได้ไกลขึ้นเมื่อใช้ไฟฟ้า และระยะเวลาการชาร์จไฟจะต้องลดลงด้วยอย่างแน่นอน

ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยทีเด็ดออกมาอีกรุ่น ด้วยการเปิดตัว เบนซ์ C 350 e อวังการ์ด เป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ในตระกูลซี-คลาส ใช้เทคโนโลยีไฮบริด ต่อจากรุ่น C 300 บลูเทค ไฮบริด และเป็นรถยนต์รุ่นที่สองของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด

Advertisement

โดดเด่นในเรื่องความประหยัดด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในโหมดไฮบริดถึง 40 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 58 กรัม/กิโลเมตร พร้อมด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 6.2 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลัง มีระบบหล่อเย็นจากน้ำ และฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัย

ดีไซน์ภายนอกยังคงรูปลักษณ์เร้าใจ กระจังหน้าแบบคลาสสิกมาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดอยู่เหนือฝากระโปรงหน้าลาย 3 แถบเสริมโครเมียม พร้อมฟังก์ชั่น แอร์พาเนล (AIRPANEL) สามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน รวมถึงการระบายอากาศดีขึ้น ไฟหน้าแบบแอลอีดี อินเทลลิเจนท์ ไลท์ซิสเต็ม (LED Intelligent Light System) มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ

Advertisement

ภายในหรูหรา แผงคอนโซลกลางสร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขนถูกออกแบบอย่างทันสมัย พร้อมด้วยทัชแพด (touchpad) ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขนช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซล

สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 5 รูปแบบ คือ แบบปรับตั้งค่าเองตามความต้องการหรือ อินดิวิดวล (Individual) แบบสปอร์ต พลัส (Sport+) แบบสปอร์ต (Sport) แบบคอมฟอร์ทหรือนุ่มนวล (Comfort) และแบบประหยัด (Economy)

และยังสามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบปลั๊กอิน ไฮบริด (Plug-In HYBRID) ได้ 4 รูปแบบ คือ

ไฮบริด การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบจะเน้นไปที่การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนให้มากที่สุด และใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเท่าที่จำเป็น หากกระแสไฟในแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำกว่า 20% ระบบจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเท่านั้นและถ้าผู้ขับขี่ปรับเกียร์อัตโนมัติเป็นโหมดสปอร์ต (S) หรือ (S+) รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงาน

 

อี-โหมด (E-MODE) สามารถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ได้จนถึงความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางสูงสุด 31 กิโลเมตรโดยไม่มีการคายไอเสีย ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแบตเตอรี่และความเร็วที่ใช้ โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่การทำงานของระบบนี้สามารถครอบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดี ผู้ขับขี่จะต้องไม่กดแป้นคันเร่งจนเกินแรงต้าน หากกดแป้นคันเร่งเกินแรงต้านเมื่อใด เครื่องยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนรถยนต์ทันที

อี-เซฟ (E-SAVE) ในขณะที่เริ่มต้นใช้ E-SAVE ระดับกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ ไฮ-โวลต์ (high-volt) ในขณะนั้นจะถูกบันทึกค่าไว้ จากนั้นระบบจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกใช้น้อยที่สุด เพื่อรักษาระดับกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ให้มีปริมาณเท่าเดิมกับตอนเริ่มต้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า ว่ากำลังจะต้องเดินทางเข้าเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หลังจากชาร์จแบตเตอรี่ high-volt จนเต็มแล้ว ควรเลือก E-SAVE ในการเริ่มต้นเดินทางก่อนเข้าเมือง เมื่อขับถึงในเมืองก็จะมีปริมาณกระแสไฟสูงสุดที่จะใช้ E-MODE สำหรับการเดินทางในเมืองได้อย่างเต็มที่

ชาร์จ (CHARGE) การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยแบตเตอรี่ high-volt จะถูกรักษาระดับการชาร์จให้อยู่ในระดับปานกลางในขณะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และจะไม่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเลยเพื่อให้เกิดการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ high-volt อย่างต่อเนื่อง แรงหมุนของเครื่องยนต์จะถูกนำมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ไปสะสมไว้ในแบตเตอรี่และจะมีการแปลงพลังงานจลน์ที่เกิดจากการชะลอความเร็วหรือการเบรกให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรี่อีกด้วย เมื่อชาร์จไฟเต็ม ระบบจะปรับไปที่การทำงานในรูปแบบ E-SAVE โดยอัตโนมัติ

C 350 e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที และกำลังแรงม้าสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 82 แรงม้า โดยมีแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 340 นิวตันเมตร ทั้งนี้ กำลังสูงสุดที่สามารถทำได้จากการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า อยู่ที่ 279 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. เกียร์อัตโนมัติ เซเว่น-จี ทรอนิก พลัส (7G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

C 350e อวังการ์ด มาแบบครบเครื่องสมกับเป็นยนตรกรรมยุคใหม่ ต้องใจถึง ให้มาแบบครบๆ ทั้งความหรูหรา ประหยัด สมรรถนะจัดจ้านรุ่นนี้ ถือว่าราคาดี ตั้งราคาไว้ที่ 2,570,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image