| ที่มา | มติชนรายวัน 29 พฤศจิกายน 2558 |
|---|---|
| ผู้เขียน | นายพล |
หลังจากค่ายนิสสันปรับกลยุทธ์สู้ศึกรถเก๋งขนาดกลางเครื่องยนต์ 1.6-1.8 ลิตร หรือที่เรียกว่า ซี เซ็กเมนต์ โดยเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี มาแทนรุ่นทีด้า และลาติโอ ในอดีต
เริ่มจำหน่ายในปี 2555 เน้นจุดเด่นพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ห้องโดยสารเงียบ อุปกรณ์ความสะดวกสบายครบ ทั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ระบบนำทาง (เฉพาะรุ่น) กล้องมองหลังและระบบสัญญาณบลูทูธ เบาะหนัง และสีภายในทูโทนสีเทา-เบจ และใช้เทคโนโลยีไมโคร-เกรน (Micro grain) ช่วยลดแสงสะท้อน พร้อมวัสดุบุนุ่ม (Soft pad) เพื่อให้สัมผัสนุ่มนวล
โดยนำเทคโนโลยี เพียว ไดรฟ์ (Pure Drive Technology) เทคโนโลยีอากาศสะอาด ทีเด็ดของค่ายนิสสันมาใส่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร และ 1.6 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดคู่ ดูอัล อินเจคชั่น
(Dual Injection) ครั้งแรกในรถยนต์ ช่วยให้ระบบเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น รวมทั้งระบบเกียร์อัจฉริยะเอ็กซ์ทรอนิก ซีวีที (Xtronic CVT) ทำให้สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า นับตั้งแต่เปิดตัวปี 2555 มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 21,000 คัน
ล่าสุด นิสสันรุกต่ออีกก้าวด้วยการเปิดตัวรุ่น “ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ” รุ่นล่าสุด เพื่อพิสูจน์ความแรงแบบสปอร์ตซีดาน มาพร้อมกับความหรูหรา
“ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ” เป็นรถขับสนุก มีการเพิ่มอารมณ์สปอร์ตและความหรูหรา เช่น ชุดแป้นคันเร่ง แป้นเบรกแบบสปอร์ต พรมปูพื้นลายใหม่ ห้องโดยสารโทนสีดำ เสริมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีเงิน ซันรูฟควบคุมด้วยไฟฟ้า
มุมมองภายนอกกันชนหน้าออกแบบใหม่ให้ความรู้สึกสปอร์ต มาคู่กับกระจังหน้าแบบรมดำ ไฟหน้ายังโปรเจ็กเตอร์เลนส์ ซีนอน พร้อมไฟหรี่แอลอีดี เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกด้วยระบบทำความสะอาดโคมไฟหน้า (Headlight washer)
กระจกมองข้างเป็นแบบลายคาร์บอน เคฟลา และติดตั้งไฟเลี้ยวแบบแอลอีดี เพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นให้เพื่อนร่วมทาง ไปจนถึงการเพิ่มไซด์ โมลดิ้ง (side molding) สเกิร์ตข้าง และกันชนหลังใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ DIG Turbo ด้านท้าย
ด้านสมรรถนะการขับขี่ การตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าฉูดฉาดมาก กดคันเร่งเป็นมา นั่นหมายความว่าเรื่องความประหยัดน้ำมันจะไม่โดดเด่น เพราะเครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีด ไดเร็ค อินเจคชั่น มาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผันคู่ เทอร์โบชาร์จเจอร์ รีดกำลังได้สูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที และแรงบิดแบบต่อเนื่องหรือแฟลท ทอร์ค (Flat Torque) สูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที
ระบบเกียร์เอ็กซ์ทรอนิก ซีวีที 6 สปีด ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล ทั้งการเร่งแซงหรือเพิ่มความเร็ว แถมยังเพิ่มความสนุกกับการควบคุมเกียร์ด้วยตัวเอง กับแมนน่วล โหมด (Manual Mode) ควบคุมง่าย และตอบสนองรวดเร็ว
การดูดซับแรงสั่นสะเทือนของระบบช่วงล่าง เมื่อเจอสภาพถนนขรุขระ สามารถจัดการแรงเหล่านั้นไม่ให้เข้ามายังห้องโดยสารได้ดี ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารไม่รู้สึกเมื่อยล้าจนเกินไปสำหรับการเดินทางไกล
สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร บล็อกนี้แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และนำเทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาใช้ เช่น เทคโนโลยีเคลือบผิวนาโน (Nano-Finish Coat) ลดแรงเสียดทานระหว่างผิวเพลาลูกเบี้ยวและตัวยกวาล์ว วาล์วไอเสียหล่อโซเดียม (Sodium Filled Valve) ช่วยระบายความร้อนของห้องเครื่องผ่านวาล์วไอเสียทำให้ดีขึ้น ลูกสูบมีช่องหล่อเย็นพิเศษ (Piston with Cooling Channel) ช่วยลดอุณหภูมิ ลดการน็อกของเครื่องยนต์
ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัย มีทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ การทรงตัวขณะเข้าโค้ง VDC (Vehicle Dynamic Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกBA ถุงลมนิรภัย 6 จุด โดยเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และม่านนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags) พร้อมระบบล็อกประตูอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ถอยจอดและกล้องมองหลัง
“ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ” ใหม่มีสีดำแบล๊กสตาร์ และสีขาวไวท์ สตอร์ม ราคา 999,000 บาท ถือว่าเป็นรถเก๋งขนาดกลางเข้ามาช่วยเติมสีสันในเรื่องสมรรถนะความแรงให้นิสสัน นอกเหนือจากความกว้างขวางสะดวกสบาย จุดเด่นของรถยนต์นิสสันที่คุ้นเคย
