มาแล้ว”ฮอนด้า ซีวิค ใหม่” เคาะราคารุ่นต่ำสุด 869,000 บาท รุ่น TURBO RS 1.199 ล้าน

ค่ายฮอนด้าเปิดตัว  ‘ซีวิค ใหม่’ เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก ชูขุมพลังจากเทคโนโลยี VTEC TURBO ใหม่ ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง แต่ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ เคาะราคารุ่นต่ำสุด 869,000 บาท ส่วนรุ่น TURBO RS ราคา 1,199,000 บาท ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 25,000 คัน 

 

(กรุงเทพฯ – 11 มีนาคม 2559) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่ได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาให้สามารถก้าวข้ามทุกข้อจำกัด เพื่อมุ่งสู่การเป็นซีวิค ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติและก้าวล้ำนำสมัยที่สุด ด้วยการยกระดับการออกแบบให้มีความทันสมัย และหรูหราในสไตล์สปอร์ต ผสานกับนวัตกรรมยานยนต์ อาทิ ขุมพลังจากเทคโนโลยี VTEC TURBO ใหม่ ที่ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่เหนือระดับ

Advertisement

มร.โนริอากิ อาเบะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ดังนั้น ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรก นอกทวีปอเมริกาเหนือที่ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ และยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตขึ้น ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี โดยได้นำเอานวัตกรรมการผลิตอันล้ำสมัยของโรงงานผลิตรถยนต์ที่โยริอิ ประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ณ โรงงานใหม่แห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาของฮอนด้าที่มีต่อประเทศไทยในการเป็นยุทธศาสตร์ฐานการผลิตที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางการส่งออกไปทั่วโลก”


นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยนตรกรรมฮอนด้า ซีวิค เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทยในเจนเนอเรชั่นที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2527 โดยได้เข้าไปนั่งในใจและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวไทยเสมอมา พิสูจน์ได้ด้วยยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันเกือบ 460,000 คัน นับได้ว่า ฮอนด้า ซีวิค ได้เติบโตควบคู่กับฮอนด้าในประเทศไทยมาโดยตลอด และยังเป็นเสมือนตัวแทนที่สื่อถึงภาพลักษณ์ของฮอนด้า เพราะเมื่อพูดถึงฮอนด้า ผู้คนจะนึกถึงซีวิคและสปอร์ตดีเอ็นเอที่มาคู่กันเป็นอันดับแรกเสมอ และในครั้งนี้ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 10 จะเป็นอีกก้าวสำคัญของการยกระดับซีวิคให้ก้าวล้ำไปกว่าเดิม ซึ่งหลังจากการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือเพียง 6 เดือน ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ สามารถคว้ารางวัลยนตรกรรมยอดเยี่ยมถึง 14 รางวัล จาก 10 สถาบันชั้นนำ สะท้อนถึงความเป็นยนตรกรรม ระดับโลกที่ทุกคนรอคอยอย่างแท้จริง”

 

Advertisement

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการจัดวางโครงสร้างโดยเน้นการออกแบบตัวรถที่ดูสปอร์ตและล้ำสมัยด้วยตัวถังที่กว้าง และมีความสูงของตัวรถที่ลดลง เพื่อสร้างอารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ตและมั่นใจ รวมถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและหรูหราด้วยเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าโครเมียมรูปร่างคล้ายปีกที่วางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบกระจังหน้า เชื่อมต่อกับไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทั้งยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED

การออกแบบภายใน เน้นการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายการออกแบบที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียม รวมถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment ทั้งนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการขับขี่ ด้วยการควบคุมอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay(เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่หลากหลาย โดยสามารถสลับเปลี่ยนข้อมูลและค้นหาตัวอักษรได้ง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ที่สามารถสั่งการ ได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง โดยขณะนั้นประตูรถยังคงล็อกอยู่เช่นเดิม และรถจะไม่สามารถออกตัวได้จนกว่าผู้ขับจะเข้าไปสตาร์ทรถตามปกติ

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าวได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ ขนาด 1.8 ลิตร และยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับ การพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้การขับขี่ที่เร้าใจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน เพื่อช่วยเติมเต็มทุกการเดินทางให้สมบูรณ์แบบที่สุด อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดทุกเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา จิตวิญญาณแห่งความท้าทาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของฮอนด้า ได้ถูกถ่ายทอดสู่การพัฒนาฮอนด้า ซีวิค จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ซีวิคได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยการนำเสนอคุณค่าใหม่และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในแต่ละยุคสมัย จนก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการแข่งขันอยู่เสมอ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มีเพียง “ซีวิค” เท่านั้น ที่จะสามารถก้าวล้ำเหนือ “ซีวิค” เองได้ และจากความเป็นยนตรกรรมระดับโลกของซีวิคที่ผ่านมา ผสานกับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นในทุกมิติ การสื่อสารทางการตลาดในครั้งนี้ จึงไม่มีการใช้คำนิยามหรือคำจำกัดความเพื่ออธิบายความเป็นซีวิค เพราะสิ่งที่สามารถบอกเล่าตัวตนได้ดีที่สุด คือ ชื่อที่ทุกคนยอมรับ และความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตาของฮอนด้า ซีวิค ใหม่ โดยฮอนด้าได้ตั้งเป้าการจำหน่าย ที่ 25,000 คัน ภายใน 1 ปี”

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น TURBO RS ราคา 1,199,000 บาท รุ่น TURBO ราคา 1,099,000 บาท รุ่น 1.8 EL ราคา 959,000 บาท และรุ่น 1.8 E ราคา 869,000 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก)

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th/civic

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image