ที่มา | ยานยนต์ สุดสัปดาห์, มติชนสุดสัปดาห์ |
---|---|
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต [email protected] |
เผยแพร่ |
แม้ในเมืองไทยตลาดรวมของรถตรวจการณ์อเนกประสงค์ หรือ “เอสยูวี” (SUV – Sport Utility Vehicle) อาจไม่ใหญ่โตเท่าเก๋ง หรือปิกอัพ
แต่ก็มียอดขายระดับ 60,000 คันต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งจากความนิยมของคนไทย รวมไปถึงความหลากหลายของขนาดตัวถัง และราคา ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นเล็ก-กลาง และใหญ่
สำหรับเมืองไทยนั้นการแบ่งแยกประเภทรถในระยะหลังๆ ถือว่าค่อนข้างสับสนพอสมควร เนื่องจากแต่ละค่ายส่งรถซอยย่อยยุ่บยั่บไปหมด
แถมตัวถังกับเครื่องยนต์ก็ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น จนแต่ละเซ็กเมนต์ทับกันไปมา
จำได้สมัยที่ผมยังวัยละอ่อน เมืองไทยมีรถอยู่ไม่กี่เซ็กเมนต์หรอกครับ
อย่างตลาดเก๋งเรียกกันง่ายๆ ว่าเก๋งเล็ก-เก๋งใหญ่
เก๋งเล็ก เช่น โตโยต้า โคโรลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค
เก๋งใหญ่พวกโตโยต้าโคโรน่า หรือฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งหากเทียบจริงๆ ในค่ายของตัวเองแล้ว พวกนี้เป็นระดับเก๋งกลางเท่านั้น
ผิดกับเก๋งจากยุโรปนี่แยกแยะเซ็กเมนต์ชัดเจนกว่า เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เก๋งเล็กคือ “ซี-คลาส” เก๋งกลาง “อี-คลาส” และมี “เอส-คลาส” เป็นพี่ใหญ่
เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู มีกลุ่มซีรี่ส์ 3-5-7 เป็นเก๋งเล็ก-กลาง-ใหญ่ ตามลำดับ
ตัดภาพมาปัจจุบันค่ายยุโรปในไทยยังเหนียวแน่นกับเซ็กเมนต์ของตัวเองชัดเจน
แต่สำหรับค่ายญี่ปุ่นดูเหมือนจะขยับขึ้นไปจนงงไปหมด
เพราะมีกลุ่มซิตี้คาร์ แทรกเข้ามาจนคนไทยเรียกติดปากว่าเก๋งเล็ก พลอยขยับกลุ่มซีวิค หรือโคโรลล่า กลายเป็นเก๋งกลาง และกลุ่มโคโรน่า หรือปัจจุบันเป็นรุ่น “คัมรี” และแอคคอร์ด กลายเป็นเก๋งใหญ่ไปเสียแล้ว แถมตัวถังยังขยับขยายใหญ่ขึ้น
อีกทั้งกำลังเครื่องยนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแยกเซ็กเมนต์ก็ใหญ่ขึ้นด้วย อย่างซีวิค หรือโคโรลล่า สมัยก่อนใช้เครื่อง 1.5-1.6 ลิตร แต่ปัจจุบันเป็นเครื่อง 1.8-2.0 ลิตรไปแล้ว
เช่นเดียวกับเอสยูวี สมัยก่อนแยกง่ายมาก แต่มาปัจจุบันมีหลายเซ็กเมนต์แยกย่อยกันยุ่บยั่บ
แต่หลักๆ ยังเป็นกลุ่มคอมแพ็กต์เอสยูวี หรือเอสยูวีขนาดกลาง (หรือใหญ่ในบ้านเรา) ที่ครองตลาดเมืองไทยมายาวนาน
รุ่นดังและขายดีต่อเนื่องไม่พ้น “ซีอาร์-วี” จากฮอนด้า
จนราวๆ 1 ปีที่ผ่านมามีรุ่นซับคอมแพ็กต์เอสยูวี เข้ามาแย่งความนิยม ตัวเด่นๆ ไม่พ้น “เอชอาร์-วี” จากฮอนด้า เช่นกัน
แม้ยังพอมีคู่แข่งให้เห็นบ้าง แต่น้อยนักที่จะแย่งความเด่นดังของซีอาร์-วีได้
จนล่าสุดค่าย “มาสด้า” ส่งเอสยูวีตัวกลั่น “ซีเอ็กซ์-5” สกายแอคทีฟ เข้ามาทำตลาด พลอยทำให้เซ็กเมนต์เอสยูวี ร้อนแรงขึ้นในพลัน
ก่อนหน้านี้มาสด้าเปิดฉากบู๊ในตลาดซับคอมแพ็กต์เอสยูวี ด้วยการส่ง “ซีเอ็กซ์-3” เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งจากเอชอาร์-วี และจากค่ายอื่นๆ
“ซีเอ็กซ์-3” ทำได้ดีเสียด้วยเพราะมียอดขายเกินเป้าที่มาสด้า วางเอาไว้
จึงเมื่อซีเอ็กซ์-5 เปิดตัวทำตลาดในบ้านเรา มาสด้าจึงมั่นใจว่าจะได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นเล็ก
ถึงขนาดประกาศว่าปีนี้ตั้งใจจะแชร์ส่วนแบ่งเอสยูวีให้ได้ 20%
ซีเอ็กซ์-5 ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สกายแอคทีฟ และการออกแบบ “โคโดะ ดีไซน์” ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จในทุกๆ รุ่นที่ออกมา
ยิ่งในรุ่นล่าสุดนี้ มาสด้าประกาศว่าเป็นโมเดลแรกที่รวมทุกองค์ประกอบจากมาสด้าได้ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด
ทั้งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ รูปลักษณ์การออกแบบโคโดะ ดีไซน์ ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วย MZD CONNECT และระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE
ผู้บริหารระบุว่าซีเอ็กซ์-5 เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มากที่สุดในคลาส เป็นผู้นำและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการถยนต์เอสยูวี เมืองไทย
ภายนอกถอดแบบมาจากรถในตระกูล “ซีเอ็กซ์” กระจังหน้าห้าเหลี่ยมขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้า Adaptive LED Headlamp ที่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายตาของสัตว์ที่จ้องมองในยามค่ำคืน
ลักษณะนี้แทบเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นใหม่ๆ ของมาสด้าไปแล้ว
ไฟหน้ามีระบบปรับองศาอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ตามสภาพการขับขี่บนถนน โดยระบบจะคำนวณระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และป้องกันไฟหน้ารบกวนคันอื่น
นอกจากนี้ มีไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LAMP) ที่กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้ว
ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
ภายในหล่อ-สปอร์ตตามสไตล์มาสด้า เน้นโทนดำตัดกับสีเงิน
พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น เรือนไมล์แบบ 3 วงกลม แผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู ออกแบบใหม่ แต่งด้วยสีเงินวาวและสีดำเงา
การออกแบบภายในเน้นหลักการทำงานตามธรรมชาติสรีระของการเคลื่อนไหวของมนุษย์ โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางเพื่อความาสะดวกในการใช้งานระบบต่างๆ
บริเวณคอนโซลกลาง มาพร้อมปุ่ม Center Commander ควบคุม MZD CONNECT เพียงหมุนหาคำสั่งที่ปรากฏบนจอ Center Display ใช้ได้ทั้งขณะรถวิ่ง หรือรถจอดนิ่ง
แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD CONNECT และแสดงผลฟังก์ชั่นใช้งานอื่นๆ หรือเรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Recognition
ค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ ควบคุมระบบความบันเทิง ระบบนำทางและเครื่องเล่น DVD ผ่านจอ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเสียงจาก BOSE รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มอีกแล้ว
นอกจากนี้ ใส่ระบบเบรกมือไฟฟ้ามาให้ด้วย
เบาะนั่งคนขับแบบหนังสีดำเข้ม แต่งตะเข็บด้วยด้ายสีแดง พร้อมระบบปรับไฟฟ้าและบันทึกความจำ 2 ตำแหน่ง
เบาะนั่งปรับไฟฟ้าด้านผู้โดยสารด้านหน้า
พนักพิงแถวหลังสามารถแยกพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน
ขุมกำลังมี 2 บล็อก ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ อินเตอร์คูลเลอร์ ระบบวาล์วไอเสียแปรผัน ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร
และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual-S-VT ให้กำลัง 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมันสูงสุดถึง อี 85
ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมสวิตช์ Drive Selection สามารถเลือกขับขี่ในโหมด Sport ได้ เมื่อต้องการเร่งแซงหรือให้อัตราเร่งเพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่สูง
มีระบบประหยัดน้ำมัน i-Stop (Idling Stop System) เพื่อความประหยัดมากขึ้น
ซีเอ็กซ์-5 ยังอัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย เช่น ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้าเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ฯลฯ
มี 4 รุ่นย่อย เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นSKYACTIV-G 2.0 C ราคา 1,220,000 บาท, SKYACTIV-G 2.0 S ราคา 1,330,000 บาท
รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 XD ราคา 1,530,000 บาท
และสุดท้ายเครื่องดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ SKYACTIV-D 2.2 XDL (AWD) ราคา 1,690,000 บาท