สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา(11 เม.ย.) ดัชนีปรับลดลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการออกมา
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนราคาเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง
ทำให้หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 17,556.41 จุด ลบ 20.55 จุด หรือ -0.12% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,833.40 จุด ลบ 17.29 จุด หรือ -0.36% และดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,041.99 จุด ลบ 5.61 จุด หรือ -0.27%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กกลับมายืนราคาเหนือ40ดอลลาร์อีกครั้ง ล่าสุดราคาส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.6% ไปปิดตลาดที่ระดับ 40.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดตลาดที่ระดับ 42.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX)ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 14.20 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดตลาดที่ระดับ 1,258 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้
