เฉลียงไอเดีย : เนวิน ชิดชอบ จากสภาสู่สนามกีฬา ภารกิจปั้นบุรีรัมย์เมืองสปอร์ต-อีเวนต์ซิตี้

จากนักการเมืองที่ดูก้าวร้าวรุนแรง และข่าวอื้อฉาว กับฉายา ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ เป็นภาพลักษณ์จดจำของ เนวิน ชิดชอบ ในวันวาน

แต่วันนี้ อดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการหลายกระทรวงจากหลายรัฐบาลที่ผ่านมา บอกเพียงว่าเขาเป็นเพียงประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือเป็นเพียง “ลุงเนวินของชาวบุรีรัมย์เท่านั้น”

ประโยคนี้เขาบอกอย่างมั่นใจ ขณะพาชมสนามช้างอารีน่า ความจุ 32,600 ที่นั่ง สนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แห่งเดียวของประเทศไทย บนผืนดินของบุรีรัมย์ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเนวิน

นอกจากนี้ยังพัฒนาสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตามมาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ อยู่ด้านทิศตะวันตกของช้าง อารีน่า ความจุ 50,000 ที่นั่ง ปัจจุบันได้รองรับการแข่งขันในระดับอินเตอร์เนชั่นแนลมานับไม่ถ้วน

Advertisement

หลังจากที่เนวินโลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมืองมากว่า 20 ปี เจอวิกฤตและสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงมาหลายครั้ง ได้วางมือทางการเมือง ประกาศตั้งสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือทีมปราสาทสายฟ้า ราวปี 2552 และในที่สุดตัดสินใจประกาศอย่างเป็นทางการยุติบทบาททางการเมืองนับแต่ปี 2555 หันหลังให้ป่าคอนกรีตและความวุ่นวาย กลับมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน

จนวันนี้เป็นปีที่ 8 ย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ที่กลับมาพลิกฟื้นบุรีรัมย์ เขาบอกว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับบุรีรัมย์ในวันนี้มาจากภาคประชาชนทั้งสิ้น ภาครัฐแทบจะไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

“วันแรกที่ผมประกาศตั้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ประกาศว่าจากนี้ไปผมจะทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เป็นแชมป์ โดยที่แฟนบอลบุรีรัมย์จำไม่ได้ ผมจะทำให้บุรีรัมย์เป็นมหาอำนาจลูกหนังของประเทศไทย เหมือนกับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เหมือนกับทีมลิเวอร์พูล ของประเทศอังกฤษ เพราะสมัยนั้นทีมดังที่เป็นที่รู้จักอยู่ในกรุงเทพฯเท่านั้น เช่น สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ พอผมพูดไปอย่างนั้นสื่อมวลชนก็เล่นข่าวกันทันทีว่าเป็นวาทะนักการเมืองบ้าง ของเล่นนักกาเมืองบ้าง ทำฟุตบอลเว้นวรรคการเมืองบ้าง ขนาดผมเลิกเล่นการเมืองแล้วยังตามมาหลอกหลอน… แต่ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำมาจนปีนี้เป็นปีที่ 9 ได้พิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นแล้วว่าสิ่งที่พูดไม่ได้เป็นแค่วาทะนักการเมือง

Advertisement

“ช่วงเวลา 8 ปีของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราเป็นแชมป์ 23 แชมป์ของประเทศไทย และเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 5 สมัย ไม่มีทีมใดเคยทำได้มาก่อน เราสร้างประวัติศาสตร์มากมายจนกระทั่ง ผลักดันให้บุรีรัมย์เป็นมหาอำนาจลูกหนังจริงๆ สามารถเปลี่ยนบุรีรัมย์จากเมือง (ทาง) ผ่าน ถึงก่อนนครราชสีมา (โคราช) หรือเลยไปก็คือสุรินทร์ ให้กลายเป็นเมืองพัก ทั้งหมดเกิดจากการที่เราทำด้วยความรัก” เนวินบอกด้วยความภาคภูมิใจ

เขาบอกด้วยว่า ได้แรงบันดาลใจในการสร้างเมืองบุรีรัมย์จากที่ได้ไปเยือนเมืองโพฮัง ของเกาหลีใต้ เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขาและมีทรัพยากรมาก โดยเฉพาะแร่เหล็กมีมากที่สุดในเกาหลีใต้ จึงกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมส่งออกเหล็ก โดยมี พอสโค รัฐวิสาหกิจของเกาหลีใต้เป็นผู้ดำเนินการ ที่สำคัญคือเขามีคำคมติดไว้ทั่วเมืองนี้ว่า Resource is limited, Creativity is unlimited เพื่อบอกทุกคนในเมืองว่าทรัพยากรมีวันหมด แต่ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีวันหมด “ทำให้ได้คิดว่า แม้บุรีรัมย์ไม่มีทะเล ไม่มีภูเขา ก็ไม่เป็นไร เราจะสร้างอย่างอื่นขึ้นมาเอง สร้างมาจากสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รัก นี่เป็นคาถาของความพยายามที่ทำให้ผมและคนบุรีรัมย์มีวันนี้”

ฝันของเนวินยังไม่หมดเท่านี้ เขามีแผนจะทำให้บุรีรัมย์มีงานอีเวนต์ 365 วัน นอกจากการแข่งรถที่มีประมาณ 70 งาน/ปี การแข่งฟุตบอลราว 30 งาน/ปี โดยจะทำเว็บไซต์เกี่ยวกับบุรีรัมย์ไลฟ์สไตล์ ได้แจ้งเครือข่ายผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ให้นำกิจกรรม เช่น สูบปลา ส่องกบ หาหนูนา เป็นต้น มาลงปฏิทินไว้ “ผมจะขายเรื่องเหล่านี้เพราะกระแสกำลังมา นักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ รวมทั้งการแชร์รูปผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ”

เนวินบอกถึงสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง มีรายได้กว่า 900 ล้านบาท/ปี จากสปอนเซอร์ รายได้จากส่วนต่างๆ การขายเสื้อ เงินรางวัล ค่าบัตรผ่านประตู การให้เช่าและการทำอีเวนต์ เป็นต้น ปี 2562 มีแผนจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะอยากให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถอยู่ได้ด้วยระบบ ไม่ต้องโดยคนใดคนหนึ่ง และต้องการให้เกิดความเป็นเจ้าของร่วมของคนที่เป็นแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดด้วย

หากย้อนไปช่วง 10 ปีก่อน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวบุรีรัมย์ไม่ถึง 500,000 คน/ปี แต่ล่าสุดปี 2560 เนวินคาดว่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3,000,000 คน ใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 3,000 บาท/คน คิดเป็นรายได้ถึง 10,000 ล้านบาทที่จะกระจายลงไปถึงพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์

แม้ในสายการเมือง เนวิน อาจจะล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่ต้องยอมรับว่า เนวิน ในสายธุรกิจถือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง และยังสร้างต้นแบบโมเดลการพัฒนาเมืองให้กับจังหวัดอื่นๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ !!!!

จุฑามาศ ศรีสวัสดิ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image