นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ว่า การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็คท์) ในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นพื้นฐานของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามต้องเร่งรัดโครงการให้ออกเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เปิดประมูลโครงการและนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจัดการเลือกตั้งในอีก 7-8 เดือนข้างหน้า เพื่อเชื่อมโยงคมนาคมในภูมิภาค การพัฒนาโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
สำหรับโครงการของกรมทางหลวงอาจจะมีล่าช้าบางโครงการ เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวม 49,120 ล้านบาท เหลือการตกลงในทางกฎหมาย หลังจากนั้นถึงจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนโครงการของกรมทางหลวงชนบทไปได้ดี รัฐบาลพยายามเร่งรัดการดำเนินโครงการในเส้นทางคู่ขนานถนนสุขุมวิทในปีหน้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก (ไทยแลนด์ริเวียร่า) เพราะฉะนั้นจึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเข้าไปศึกษาเพิ่มเติม
“โครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟทางคู่จากกรุงเทพลงไปทางใต้ ในอนาคตจะเชื่อมชายฝั่งทะเล 2 ฝั่ง กับการพัฒนาเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวในภาคต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค โดยเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงินโครงการ 94,673.15 ล้านบาท กำลังจะออกทีโออาร์ในเร็วๆ นี้ การประชุมติดตามฯ ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ศึกษาส่วนต่อขยายเพิ่มเติมจากหัวหินถึงสุราษฎร์ธานี ประมาณ 300 กิโลเมตร (กม.) เพื่อให้มีรถไฟทางคู่จากชุมพรตัดไปที่ระนอง เข้าสู่ทะเลอันดามัน เพราะฉะนั้นภาพหลังจากนี้รถไฟจะเป็นพระเอก” นายสมคิดกล่าว
ทั้งนี้อยากให้กรมเจ้าท่าพัฒนาเส้นทางทะเลเพิ่มเติม ว่าจะทำอย่างไรให้การเดินทางในเส้นทางเหล่านี้เกิดประโยชน์สูงสุด ในเส้นทางอื่นๆ นอกจากสัตหีบ-หัวหิน เช่น เส้นทางเชื่อมต่อไทยแลนด์ริเวียร่ามีกี่เส้นทาง ต้องเพิ่มเส้นทางอีกหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน นอกเหนือจากการพัฒนาการบริการ
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมกะโปรเจ็คท์หลักๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการภายในปีนี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟฟ้าและโครงการมอเตอร์เวย์ รวมมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 753,521.51 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. มูลค่าโครงการ 59,399.80 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม. มูลค่าโครงการ 36,683 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 174 กม. มูลค่าโครงการ 25,842 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 23,080 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา ระยะทาง 339 กม. มูลค่าโครงการ 59,399.80 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 75 กม. มูลค่าโครงการ 7,864.49 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. มูลค่าโครงการ 57,992.44 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ระยะทาง 326 กม. มูลค่าโครงการ 71,696 ล้านบาท รถไฟทางคู่บ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าโครงการ 54,684.40 ล้านบาท
นอกจากนี้เป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ – หัวหิน ระยะทาง 211 กม. มูลค่าโครงการ 94,673.15 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทางประมาณ 16.4 กม. มูลค่าโครงการ 85,200 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – วงแหวนกาญจนาฯ ระยะทาง 23.6 กม. มูลค่าโครงการ 131,172 ล้านบาท และโครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. มูลค่าโครงการ 49,120 ล้านบาท
