เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ (ซอยรางน้ำ) บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จัดสัมมนา ‘ทำอย่างไรให้ “5Gเทคโนโลยีพลิกโลก” เกิดขึ้นจริงในไทย’
เวลา 10.50 น. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในหัวข้อ “5Gไทย”จะต้องทำอย่างไร? ว่า คาดว่าเมื่อมีเทคโนโลยี 5G เข้ามา กลุ่มผู้ใช้หลัก คือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเทคโนโลยีมีผลต่อการแข่งขันของประเทศ เพราะทั่วโลกให้ความสำคัญ และส่งผลต่อการย้ายฐานของอุตสาหกรรมประเทศ
สำหรับประเทศไทยเชื่อว่า5Gจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ช้า แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพ และควรเป็นแบบต้นทุนต่ำคุณภาพสูง ไม่ใช่ต้นทุนสูงคุณภาพต่ำ
ทั้งนี้ปัจจุบัยมองว่า ผู้ประกอบการในกิจการโทรคมนาคมในไทยมีรายใหญ่ 3 ราย และของรัฐวิสาหกิจ2รายแต่ไม่ยอมเข้าร่วมแข่งขัน รวมเป็น 3.2 ราย ซึ่งนโยบายรองรับ5Gที่ดีนั้น รัฐบาลควรเปิดเสรีผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ ถ้าเกิดการแข่งขันเป็นธรรม ราคาสมเหตุสมผล จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
“ถ้าดำเนินการไม่ดี จะส่งผลเสีย ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้อาจลดลงจาก 3.2 ราย เหลือ 2.3 ราย และสิ่งที่เกิดขึ้น คือ การบริการที่คุณภาพไม่ดีแต่ราคาสูง”นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวว่า ตอนนี้ไทยยังเป็น 2.5จี เพราะระบบยังไม่เกิดการแข่งขันแท้จริง กสทช.ยังทำงานแบบเกรงใจกลุ่มคนบางกลุ่ม ดังนั้นถ้าอยากให้เกิด5Gรัฐต้องให้ประชาชนเป็นตัวตั้ง ต้องปรับกระบวนการใหม่ ต้องอนุญาตให้ผู้ลงทุนถือหุ้นเกิน50% ซึ่งปัจจุบันรัฐพยายามหางานให้รัฐวิสาหกิจ เพื่อประคองกิจการไปให้ได้ทั้งที่การทำงานอาจมีศักยภาพไม่สูง นอกจากนี้ต้องการให้รัฐบาลออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นายสมเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำอย่างเร่งด่วนก่อนการประมูล 5G นั้นรัฐบาลควรหากสทช.ชุดใหม่จากปัจจุบันเป็นชุดรักษาการ เพราะ5G ควรให้กสทช.ชุดจริง ทำงานจริง เข้ามาบริหาร เพราะถ้าทำงานด้วยชุดรักษาการจะถูกตั้งคำถาม เช่น ถูกตั้งคำถามว่ามีการหมกเม็ดหรือไม่
นอกจากนี้รัฐควรพิจารณาคลื่นความถี่ที่เอกชนถืออยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรเอากลับมาเพื่อดูว่าจะประมูลอย่างไร และดูราคาให้เหมาะสม เพราะถ้ากระบวนการไม่ดี เอกชนจะมีสิทธิเจ๊งเพราะเรกูเลเตอร์อย่างกสทช.ได้
