ได้ยินเรื่องแผนพัฒนาสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 3 มายาวนาน ล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 3.75 หมื่นล้านบาท ดำเนินการระหว่างปี 2561-2567 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันรองรับได้ 30 ล้านคนต่อปี
สำหรับการพัฒนาในระยะที่ 3 นี้ มีการรื้ออาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (หลังเดิม) พร้อมอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 เพื่อก่อสร้างเป็นอาคารผู้โดยสาร อาคาร 3 พื้นที่ 155,000 ตารางเมตร มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ 18 ล้านคนต่อปี
หลังจากนั้นจะปรับปรุงอาคาร 1 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยระหว่างปรับปรุงอาคาร 1 ผู้โดยสารภายในประเทศจะสามารถใช้บริการได้ที่อาคาร 2 ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร เมื่ออาคาร 1 และอาคาร 2 แล้วเสร็จ จะรองรับผู้โดยสารภายในประเทศรวม 22 ล้านคนต่อปี
นอกจากนั้นจะพัฒนาส่วนอื่นๆ ทั้งในเขตการบินและนอกเขตการบิน ทำให้มีหลุมจอดเพิ่มขึ้นจาก 114 หลุมจอด เป็น 142 หลุมจอด ขยายช่องทางถนนในสนามบิน และเพิ่มที่จอดรถยนต์ จาก 4,475 คัน เป็น 5,736 คัน รวมถึงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เช่น อาคารดับเพลิงและกู้ภัยทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ การก่อสร้างอาคารสำนักงาน และการปรับปรุงอาคารคลังสินค้า เป็นต้น มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2567
เนื่องจากสนามบินดอนเมืองมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นและมีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ขณะเดียวกันผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็เป็นกรุ๊ปทัวร์ จึงไปคอยตรวจบัตรโดยสาร (เช็กอิน) มากกว่าปกติ ทำให้พื้นที่ตรวจบัตรโดยสารอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ที่มีความแออัดอยู่แล้ว เกิดความแออัดหนาแน่นมากขึ้น
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทอท.จะก่อสร้างอาคารบริการผู้โดยสารบริเวณลานจอดสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ซึ่งอยู่ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 โดยจะสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 6,300 ตารางเมตร ชั้นล่างเป็นโถงผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่รอขึ้นรถ
รวมทั้งมีพื้นที่จอดรถบัสได้จำนวน 16 คัน ชั้นบนเป็นโถงผู้โดยสารขาออกเพื่อพักรอก่อนการตรวจบัตรโดยสารที่อาคาร 1 ซึ่งการก่อสร้างอาคารหลังนี้จะช่วยลดความแออัดบริเวณพื้นที่ตรวจบัตรโดยสารที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ได้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 5 เดือน และทันการรองรับผู้โดยสารในช่วงไฮซีซั่นเดือนมกราคม 2562 พอดี
หากทำได้ตามแผนงานที่กำหนดจริง เชื่อว่าเสียงบ่นของผู้โดยสารลดลงอย่างแน่นอน!!
นายขันตี
