“ประสิทธิ์” ย้ำไม่เกี่ยวโกงบิทคอยน์ ทำหน้าที่ดีลเมกเกอร์ซื้อขายหุ้นดีเอ็นเอเท่านั้น (คลิป)

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวคดีบิทคอยน์ ที่โรงแรมดุสิตธานีว่า จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจ แบ่งเป็น 4 ฝ่าย ประกอบด้วยนายปริญญา จารวิจิต มีคอนเน็คชั่นที่มาเก๊า-เกาหลี นายชาคริต อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็กซ์เปย์ จำกัด นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา นักลงทุนชาวฟินแลนด์ แก้วกาสี หรือแตงโม ซึ่งเป็นแฟนสาวนายเออาร์นี ดูแลด้านการเงิน และนายประสิทธิ์เป็นดีลเมกเกอร์หุ้นบริษัท บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) และเตรียมความพร้อมธุรกิจบล็อกเชน โดยเริ่มแรกนายประสิทธิ์รู้จักกับนายปริญญา จารวิจิต ผ่านทางเฟสบุ๊ค หลังจากไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบล็อกเชนที่สิงคโปร์ ก่อนจะรู้จักกับนายเออาร์นีและแตงโมก่อนจะร่วมงานกัน โดยประเมินว่านายเออาร์นีเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ชอบหาความรู้ด้านการลงทุนอยู่สม่ำเสมอ

“ในส่วนตัวของผมเองทำหน้าที่เป็นดีลเมกเกอร์ เพราะผมมีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับหุ้น เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างครบ จึงจัดตั้งฟอร์มทีมงานเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน โดยนำเสนอหุ้นดีเอ็นเอ เนื่องจากมีโอกาสเติบโตและมีปัจจัยพื้นฐาน โดยในฐานะดีลเมกเกอร์มีหน้าที่เจรจากับนายปริญญากับผู้ถือหุ้นดีเอ็นเอที่สนใจขายหุ้น ซึ่งได้ทำสัญญาโอนหุ้นทั้งหมดให้กับนายปริญญาและนายเออาร์นี โดยรายการซื้อขายและรับหุ้น มีดังนี้ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 185 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.23 บาท มูลค่า 277.55 ล้านบาท และวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 อีกจำนวน 160 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.5 บาท มูลค่า 240 ล้านบาท รวมทั้งหมดได้มีการโอนหุ้น 345 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 467.55 ล้านบาท ซึ่งมีเอกสารการลงนามทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายประสิทธิ์กล่าว

นายประสิทธิ์กล่าวว่า ภายหลังโอนหุ้นแล้วจะต้องดำเนินการชำระเงิน ตนจึงสอบถามไปยังน.ส.แตงโมที่ดูแลด้านการเงิน แต่ปรากฎว่าได้ชำระเงินให้กับนายปริญญาแล้ว ทั้ง 4 ฝ่ายจึงมาคุยกันเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น มีการใช้วาจาหยาบคายตอบโต้กันในที่ประชุม จากความไม่ชอบมาพากล ตน นายเออาร์นีและน.ส.แตงโมจึงขอยุติการร่วมงานกับนายปริญญา และมีการข่มขู่ว่าอาจจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ จึงมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำว่าควรจะขอความช่วยเหลือจากนายธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองมนัส หลังจากนั้นจึงโอนหุ้นไปที่ผู้กองมนัส ประมาณ 400 กว่าล้านหุ้น เพื่อความสบายใจ และทำสัญญาล็อคซื้อขายหุ้นผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากยังชำระราคาหุ้นไม่ครบ ทั้งนี้ภายหลังที่ผู้กองมนัสเข้ามาเป็นตัวกลาง มีความสนใจที่จะลงทุนในหุ้นดีเอ็นเอ โดยต้องการซื้อหุ้นมากกว่า 65% ในราคาไม่เกินหุ้นละ 1.5 บาท

นายประสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งนี้พร้อมที่จะเข้าพบสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น และในกรณีที่มีตำรวจไปตรวจที่บ้าน ยอมรับว่าจริง โดยให้ข้อมูลไปตามข้อเท็จจริงซึ่งตรงกัน และในวันที่ 28-29 สิงหาคมนี้ พร้อมที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามตามหมายเรียก ขอยืนยันความบริสุทธิ์และไม่มีความกังวลเรื่องเจ้าหน้าที่เรียกเข้าพบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในส่วนการลงทุนในดราก้อนคอยน์ ย้ำว่าตนทำหน้าที่ดีลเมกเกอร์การเจรจาซื้อขายหุ้นดีเอ็นเอเท่านั้น

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image