‘พีดับบลิวซี’เผยผลสำรวจบริษัทไทย ยักยอกสินทรัพย์62%สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก

นายวรพงษ์ สุธานนท์ หุ้นส่วนสายงาน Forensic services บริษัท พีดับบลิวซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการทุจริต ประจำปี 2561 ว่า จากการทำแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 522 ราย ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐพบว่า ประมาณ 48% ของบริษัทในประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อการทุจริตและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สูงกว่าผลการสำรวจเมื่อปี 2559 ที่มีเพียงประมาณ 1 ใน 4 ของบริษัทในประเทศไทยเท่านั้นที่ยอมรับว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งแม้จะเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ถือว่าเป็นสัญญาณบวกของประเทศมากกว่าที่จะมองว่าเป็นสัญญาณเตือนภัย

“ตัวเลขที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ แม้ว่าจะน่าวิตก แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนประกอบกับประสบการณ์ทำงานของพีดับบลิวซีแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรในประเทศไทยเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้านการทุจริตและสามารถตรวจพบเหตุทุจริตได้เพิ่มขึ้น มากกว่าที่จะสื่อว่าจำนวนของเหตุทุจริตและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมีสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”นายวรพงษ์กล่าว

นายวรพงษ์กล่าวว่า การทุจริตและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศและทุกภาคอุตสาหกรรม ทั้งยังเกิดขึ้นได้ในหลากหลายรูปแบบ ด้วยวิธีการที่ซับซ้อน จึงทำให้ตรวจจับได้ยาก โดยในผลสำรวจพบว่าการยักยอกสินทรัพย์ยังคงเป็นประเภทของการทุจริตที่พบได้มากที่สุดในประเทศไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น 62% สูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ 45% เช่นเดียวกับตัวเลขการประพฤติผิดทางธุรกิจของไทย คิดเป็น 40% สูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ 28% สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรยังมีช่องโหว่ กลายเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้มีการแสวงหาประโยชน์จากพื้นที่สีเทา หรือความไม่ชัดเจนของนโยบาย

นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วนบริษัท พีดับบลิวซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เปอร์เซ็นต์การรับรู้การทุจริตที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทในประเทศไทยมีความตระหนักและเข้าใจถึงผลกระทบของอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ที่มีต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในเวทีโลก และความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติมากขึ้นกว่าในอดีต

รายงานข่าวจากพีดับบลิวซี แจ้งว่า กลุ่มธนาคารและตลาดทุน การบริการทางด้านสุขภาพและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มธุรกิจที่ผู้นำแสดงความความรับผิดชอบสูงกว่าค่าเฉลี่ย นำโดยสหรัฐ บราซิล และสหราชอาณาจักรตามลำดับ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่มีการรายงานการทุจริตในระดับที่สูงที่สุด ได้แก่ ประกันภัย การเกษตร สื่อสารและโทรคมนาคม บริการทางการเงิน ค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค และอสังหาริมทรัพย์

ADVERTISMENT