การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดชุมพร ได้เห็นชอบข้อเสนอแผนงานโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมภาคใต้ฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย และจากเหนือลงใต้ รวมถึงการพัฒนาชายฝั่งทะเลสองฝั่ง
โดยฝั่งอ่าวไทยประกอบด้วยโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ระยะทาง 515 กิโลเมตร (กม.) โดยให้ปรับลดคงเหลือ 177 กม. สิ้นสุดที่จังหวัดชุมพร แต่ภาคเอกชนเสนอให้ต่อไปจนถึงจังหวัดสงขลา รวมถึงการก่อสร้างทางเลี่ยงทะเลสาบสงขลาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า เป็นการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบนของไทย หรือถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย (The Royal Coast หรือ Thailand Riviera) ตั้งแต่เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และระนอง ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวริมฝั่งทะเลที่มีความหรูหรา มีคุณภาพ และมีความหลากหลายเช่นเดียวกับริเวียร่า Riviera ของประเทศฝรั่งเศส และ Riviera ของประเทศอิตาลี ในการดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนเข้ามาในพื้นที่เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่เหล่านี้สู่ระดับนานาชาติ
มุมมองของ ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ระบุว่า โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า เป็นโครงการที่ดี แต่ไม่ใช่โครงการใหม่ เพราะเรื่องนี้เคยมีมานานแล้ว โดยชื่อโครงการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เป็นโครงการ ริเวียร่า เฉยๆ จนมาเป็นไทยแลนด์ริเวียร่าในปัจจุบัน ที่บอกว่าดี หมายถึงหลักการเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันตก อ่าวไทย โดยเริ่มต้นมาจากคลองโคน ชะอำ และล่าสุด มีการลากยาวมาถึง จ.ชุมพรด้วย
ที่ว่าหลักการดี คือ ต้องการให้การท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างครบวงจร ไม่ใช่แค่สร้างถนนเพิ่ม หรือทำป้ายบอกทาง ทำป้ายโฆษณาเท่านั้น เพราะถนนที่ทำไม่ใช่ถนนสายหลักอย่าง ถนนเพชรเกษม แต่เป็นถนนสายรองที่เลียบชายฝั่ง ส่วนป้ายบอกทาง หรือป้ายบอกว่าพื้นที่ไหนมีอะไรให้เข้าไปเที่ยวชมบ้างนั้น เข้าใจว่าของมีอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ให้สะดวกขึ้นก็พอแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวหลักที่จะให้คนเข้าไปต้องมีดี และต้องทำให้ดีด้วย คือ มีป้ายให้เข้าไปเที่ยว เข้าไปเรียนรู้ก็ต้องมีที่เที่ยว ที่เรียนรู้จริงๆ และก็ต้องส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นให้ดูดี พร้อมรับการเข้าไปของนักท่องเที่ยว เช่น ธนาคารปู แหล่งดูนก ที่ทำขนม ต้องทำให้ดี ทำให้พร้อม
ขณะที่ นายอุดมสุข นิ่มเซียน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า เป็นโครงการเก่าที่บางรัฐบาลเคยมีแนวคิดนี้ในอดีต ต้องการผลักดันให้มีการพัฒนาตามนโยบายด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก เป็นเมืองที่ทรงคุณค่า ที่ผ่านมาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯได้ประชุมกับภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประเด็นสำคัญเป็นเรื่องของแจ้งข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทั้ง 4 จังหวัดเข้ามามีส่วนร่วม
สิ่งสำคัญของโครงการคือการใช้งบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมให้มีความยั่งยืน มีการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนสายหลักสายรอง ถนนในหมู่บ้านที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มีการพัฒนาบุคลากรในระดับรากหญ้า ให้มีความรู้เพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีการพัฒนาด้านการใช้ภาษา พัฒนาคุณภาพของสินค้า และภาครัฐควรมีแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เนื่องจากประจวบคีรีขันธ์เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักระดับประเทศที่มีศักยภาพสูงมากทุกอำเภอ
ส่วน นายสุวารินทร์ มยาเศส ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และผู้ช่วยรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า โครงการดังกล่าวจะมีการทำถนนเลียบทะเลตั้งแต่แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี ลงมาผ่านชุมพร ไปจนถึง จ.สงขลา และยังมีส่วนที่จะแยกไปยัง จ.ระนองด้วย ซึ่งขณะนี้ถนน 4 ช่องทางจราจรจากชุมพรไประนองก็คือหน้าไปประมาณ 70% คิดว่าในปีหน้า (2562) ก็คงจะแล้วเสร็จ เพราะสร้างมา 3 ปีแล้ว
สำหรับในเรื่องรถไฟรางคู่สายชุมพร-ระนอง ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร คิดว่าคงสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปเป็นร่างในปี 2566 เพราะขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มนับ 1 เลย และยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น ส่วนรถไฟรางคู่จากชุมพรไปหาดใหญ่ก็มีโอกาสเป็นไปได้มาก หากรถไฟรางคู่จากประจวบคีรีขันธ์ถึงชุมพรแล้วเสร็จ นอกจากนั้น ถนน 4 ช่องทางจราจรจาก อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ไปยัง ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง หากสามารถทำได้ ก็จะช่วยเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของชุมพร-ระนองได้เป็นอย่างมาก
ด้าน นายสนชัย อุ่ยเต็กเค่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง บอกว่า ระนองซึ่งเป็นน้องใหม่ต้องปรับตัวเยอะมากในการที่จะปรับตัวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ระนองเอง ทั้งเทศบาลหรือ อบต. ต้องพัฒนาพื้นที่ในเชิงท่องเที่ยว ภาคเอกชนก็ต้องปรับตัวในการเพิ่มความรู้ความสามารถ ช่วยเหลือสนับสนุนทางราชการ ทั้งผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งมีประเด็นที่ต้องปรับปรุงและเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง เช่น การกำหนดขอบเขตให้นักท่องเที่ยวชาวเมียนมาที่ข้ามแดนมาเที่ยวได้แค่ 10 กิโลเมตร เป็นขยายให้ท่องเที่ยวได้ทั้งจังหวัด โดยมีการควบคุมและดูแลได้ ทางด้านสนามบินให้เปิดบริการ visa on arrival เพื่อความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมาลำ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการทำเรื่องขึ้นไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ
สิ่งที่ต้องมีการปรับอีกส่วนหนึ่งคือการเก็บค่าใช้จ่ายการรักษาวีซ่า หรือ re-entry กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาระนองแล้วต้องการไปเที่ยวประเทศเมียนมาแบบไป-กลับในวันเดียว ในขณะนี้มีราคาสูง ถ้าทางรัฐสามารถลดราคาตรงนี้ได้ ก็จะทำให้ระนองเป็นจุดที่น่าสนใจในการมาระนองเที่ยวสองประเทศได้มากขึ้น อีกอย่างหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
ที่หลายภาคส่วนพูดถึงกันมานานนั้นก็คือ การมีสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดระนอง เพราะที่ผ่านมาระนองมักจะเป็นส่วนหนึ่งของที่อื่นเสมอ นับตั้งแต่ไปขึ้นกับสุราษฎร์ฯ จนถึงปัจจุบันขึ้นอยู่กับชุมพร ซึ่งจังหวัดระนองมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่น ทั้งเป็นเมืองชายทะเล มีน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ และมุ่งเน้นเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หากมีสำนักงานประจำจังหวัดระนองได้ เจ้าหน้าที่จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับระนองได้อย่างเต็มที่และชัดเจนมากขึ้น
จากนี้ต้องจับตาว่ารัฐบาลจะเดินหน้า โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ให้เป็นจริงเป็นจังอย่างไรเพื่อสานฝันยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับนานาชาติ
