เจ้าสัวธนินท์เผย ซีพีพร้อมช่วยเหลือเกษตรกร-ชาวนา-โชห่วย

เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยระหว่างการเดินทางเยือนจีน เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ว่า รถไฟความเร็วสูงตอนนี้มีจีน-ญี่ปุ่นร่วมลงทุน กำลังดูพาร์ตเนอร์ไทยว่าจะเป็นเจ้าไหน และกำลังคุยกับฝรั่งเศส-อิตาลีไว้ด้วย แต่ที่อยากได้คือสหรัฐ เพราะอย่างไรก็ทิ้งสหรัฐไม่ได้

นายธนินท์กล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีคอนเซ็ปต์ใหม่เรื่องเกษตร 2 เรื่อง คือ 1.นาที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ต้องอยู่ในเขตชลประทาน กั้นคันดินให้สูง 1.50 ม. ปรับพื้นข้างล่างที่เป็นดินเหนียวให้แน่น น้ำซึมไม่ได้ แล้วลงดินซุนสำหรับปลูกข้าวหนาประมาณ 50-60 ซม. เพราะรากข้าวยาวแค่นั้น ปกติแมลงจะมากินข้าว 2 ช่วง คือตอนเป็นต้นอ่อนกับตอนออกดอก ช่วงนั้นไขน้ำเข้า ให้ท่วมมิดข้าว ปกติข้าวทนจมน้ำได้ 8 ชม. และแมลงจมน้ำ 1 ชม. ก็ตาย พอเกิน 1 ชม. ไขน้ำออก แทบไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือจะไม่ใช้เลยก็ได้ ที่ต้องปรับดินเพราะน้ำจะไม่ซึมลงไป และแทร็กเตอร์ลงลุยได้ ต้องทำแปลงใหญ่ถึงจะคุ้ม ตอนนี้กำลังทดลองอยู่ที่กำแพงเพชร

2.ควรลดพื้นที่ปลูกข้าว ตอนนี้ 105 ล้านไร่ เมื่อไหร่จีนหรืออินเดียกินข้าวน้อยลงหรือส่งออกมากขึ้น ก็ตาย และวันนี้พม่ากำลังจะกลับมา เริ่มพัฒนาที่นาเป็นการใหญ่ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พม่าคือผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลก เงื่อนไขการปลูกไม่เป็นรองไทยเลย ดูพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม เช่น ภาคกลาง น้ำมาก สวนผลไม้ดีที่สุด แต่ต้องรอ 3 ปี ตรงนี้ต้องคิดว่าจะเสริมรายได้เกษตรกรช่วงต้นยังไง หรือพื้นที่อื่น ถ้าปลูกข้าวไม่คุ้ม เพราะผลผลิตมีตั้งแต่ 300-1,000 กก./ไร่ ให้ไปดูอย่างอื่นที่คุ้มกว่า เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลผลิต 1,700 กก./ไร่

ส่วนเรื่องนา ถ้าเจ้าของไม่พร้อมทำเอง ซีพีพร้อมสวม โดยจ่ายค่าเช่านาให้เท่ากับรายได้เดิม เพิ่มอีก 10% แต่ก็จะไม่ทำเอง จะไปหาคนรุ่นใหม่มาทำเกษตรและใช้เทคโนโลยี ให้เป็นเถ้าแก่ในแต่ละพื้นที่

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องโชห่วย นายธนินท์กล่าวว่า ตอนนี้เมืองไทยมี 600,000 ร้าน ส่วนเซเว่นมี 11,000 สาขา ให้เปิดเต็มที่ก็ไม่เกิน 20,000 สาขา และยังมีพื้นที่อีกมากที่ยกระดับได้ แต่ปัญหาก็คือ ถ้าหากร้านเยอะไป ก็แย่งกันจนและไม่มีใครได้กำไร และสำรวจแล้วคิดว่าร้านโชห่วยทั้งหมดควรจะมีประมาณ 200,000 ร้านกำลังเหมาะ และของที่จะต้องขายเพิ่มก็คือของสด โดยซีพีจะเข้าไปช่วยด้วยการ 1.อบรมเจ้าของร้านเดิม 2.ลงตู้แช่ให้ฟรี 3.จัดการเรื่องขนส่งให้ 4.จัดหน้าร้านให้ใหม่ ให้สะอาด สว่าง เจ้าของทำหน้าที่เช็กสต๊อกให้ดี แต่ที่ต้องคุยกับท้องถิ่นก็คือ ถ้าในหมู่บ้านหรือตำบล มี 3 ร้านแล้วทำให้ร้านเดียวอยู่ได้ อปท.จะช่วย 2 ร้านที่เหลือให้ปรับเปลี่ยนอาชีพอะไร และได้อย่างไร

ในส่วนซีพีเองนอกจากปรับโชห่วย ยังจะเปิดภัตตาคาร-ร้านอาหารเพิ่ม 50,000 จุด แต่จะไม่ทำเอง จะทำเป็นแฟรนไชส์ และกำลังอบรมคนที่จะเป็นเถ้าแก่-เจ้าของร้าน โดยภัตตาคารก็รับของจากร้านโชห่วย เพื่อช่วยระบายสินค้า อาหารที่ผลิตก็จะหลากหลายขึ้น ร้านไม่ต้องทำ ไปเอาของสำเร็จไป ต้ม ผัด ทอด นึ่ง แต่จะให้แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป 2 อย่าง 1.มีดีลิเวอรี่ ทั้งด้วยมอเตอร์ไซค์ จักรยานและเดินในรัศมี 1 กม. และ 2.มีโคเวิร์กกิ้ง สเปซ ในร้าน มานั่งทำงาน สั่งอาหาร สั่งกาแฟได้ด้วย สำหรับเซเว่นก็ต้องปรับ เพิ่มบริการดีลิเวอรี่ด้วย ไม่เช่นนั้นคนอื่นทำก่อนก็คงต้องเจ๊ง และกำลังปรับอยู่

ในส่วนของซีพีก็จะปรับตัวด้วย โดยเฉพาะโลจิสติกส์ เพื่อให้รองรับธุรกิจข้างนอกที่เปลี่ยน ปัจจุบันมีรถขนปุ๋ย อาหารสัตว์ เมล็ดพันธุ์ ขนของเซเว่น ฯลฯ ประมาณ 18,000 คัน จะเอามารวมเป็นที่เดียว สร้างองค์ความรู้เรื่องการขนส่งและโลจิสติกส์เอง คิดว่าจะขยายและนำรถของเถ้าแก่ใหม่และแฟรนไชส์ จะมีรถทั้งหมดประมาณ 200,000 คัน ตัวอย่างเช่น ถ้าถนนเส้นหนึ่ง มีฟาร์ม มีโรงแปรรูปอยู่แล้ว ก็จะมองหาร้านโชห่วยและหาทำเลเปิดภัตตาคารที่ว่า เพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งแปลว่าต้นทุนต่ำสุด

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องคน ที่เน้นคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทำแทนคนรุ่นเก่า คนเก่าที่มีบุญคุณเลี้ยงจนตาย ยังได้ผลประโยชน์ที่ทำมาแต่งานใหม่ ให้คนใหม่ทำอะไรเดิมที่ดีอยู่แล้ว ซีพีเอฟ ซีพีออล ให้เขาทำไปมีงานใหม่ ธุรกิจใหม่ ให้คนใหม่ทำ ลองผิดลองถูกได้ ผิดไม่เป็นไร ผิดตั้งแต่เริ่มหรือผิดน้อยๆ แก้ได้ แต่ถ้าฉลาดมาก ผิดใหญ่ แล้วยังไม่รู้ว่าผิด อันนี้อันตราย ต้องไม่เอาไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image