ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สมรรถนะสูง รองรับทุกโหมดขับขี่ มีดีที่ช่วงล่าง : อาร์ม สามย่าน

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือกระบะที่ต่อยอดจาก เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่โดยเฉพาะในทางฝุ่น
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เปิดตัวครั้งแรกของโลกในเมืองไทย เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการโชว์สมรรถนะ โหมดการขับขี่ กลางทะเลทราย คล้ายรถแรลลี่รายการแข่งขันระดับโลก

หลังจากได้เห็นสมรรถนะกันแล้ว ฟอร์ดก็ได้ทำการเปิดตัวราคา ที่พุ่งไปถึง 1,699,000 บาท จัดว่าเป็นกระบะแพงที่สุด ซึ่งแน่นอนมันมาพร้อมกับสมรรถนะที่ไม่เหมือนใคร

ถามว่าอะไรเปลี่ยนไปหากเปรียบเทียบ เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 2.0 Bi-Turbo นอกจากเครื่อง-เกียร์ตัวเดียวกัน สิ่งที่เจ้าแร็พเตอร์มีเหนือกว่า คือสมรรถนะของช่วงล่าง และโหมดการขับขี่ที่สนุกสนานบุกตะลุยไปได้ทุกที่ทุกสภาพถนน มันกลายเป็นกระบะระดับพรีเมียม ที่ฟอร์ดหวังเจาะตลาด คนที่ต้องการใช้รถกระบะที่ดีขึ้นอีกมาระดับหนึ่ง อันที่จริงก็สอดคล้องกับนิสัยคนไทยเหมือนกัน ในความที่ชอบแต่งรถ พอถอยออกจากโชว์รูมก็เอาไปเปลี่ยนล้อ เปลี่ยนแม็ก เปลี่ยนโช้กอัพ ช่วงล่างใหม่ ดังที่เราเห็นกันตามท้องถนน

รูปลักษณ์ภายนอกค่อนข้างดุดัน ไฟหน้าแบบ HID โปรเจ็กเตอร์ ปิด-เปิด อัตโนมัติ กระจังหน้ามาพร้อมโลโก้ฟอร์ดตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษ ความสูงใต้ท้องเครื่องอยู่ที่ 283 มิลลิเมตร ระยะช่วงล้อหน้าและล้อหลังที่กว้างขึ้น 150 มิลลิเมตร แก้มข้างรถทนทานถูกตีโป่งขยายออกรองรับการยุบตัวของโช้กและยางออฟโรด

Advertisement

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ฟอร์ดเลือกใช้ยาง All-terrain BF Goodrich ขนาด 285/ 70 r17 ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ลุยได้ทุกสภาพถนนทั้งถนนปกติ เปียกลื่น มีโคลน หรือจะเป็นพื้นทรายและหิมะ

มีแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ อีกจุดที่สะดุดตาคือบันไดข้าง ที่ทำขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียมสีดำ แข็งและทนทาน ผิวจะไม่เรียบ เหยียบแล้วไม่ลื่น มีฝาท้ายแบบผ่อนแรง

ภายในห้องโดยสารกันบ้างแต่งเป็นโทนดำ เบาะที่นั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารปรับได้ 6 ทิศทาง เดินด้ายสีน้ำเงิน โอบกระชับตัวดี พวงมาลัยมาพร้อมแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา ยังติดตั้งแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยแถบสีแดงด้านบนช่วยให้เรารู้ตำแหน่งของพวงมาลัยขณะขับขี่ มีถุงลมนิรภัยให้ 6 จุด มีระบบควบคุมความเร็ว

Advertisement

กุญแจรีโมตอัจฉริยะพร้อมปุ่มกดสตาร์ต มีระบบนำทาง พร้อมหน้าจอแสดงผลสัมผัสขนาด 8 นิ้ว มีลำโพงให้ 6 จุด พร้อมกล้องมองขณะถอยหลังและสัญญาณเตือน ในห้องโดยสารมีช่องต่อไฟ 12 V และ 230 V ระบบปรับอากาศแยกอิสระซ้าย-ขวา ภายในห้องโดยสารยังมีระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารด้วย

เครื่องยนต์ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กำลัง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมือนกับ เรนเจอร์ ไวลด์แทรค หากขับขี่โหมดปกติ ก็จะนุ่มนวล และยังสามารถเลือกการขับขี่แบบแมนนวล เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้เองเพิ่มความสนุก หรือเลือกการขับขี่โหมดสปอร์ต ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วไวในขณะที่รอบเครื่องสูง

ช่วงล่างของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ แชสซีส์ได้รับการออกแบบใหม่มาเป็นพิเศษทนต่อแรงกระแทกที่อาจเกิดจากการขับขี่ออฟโรดโดยเฉพาะ อันนี้ใครหวังจะเอาเรนเจอร์ ธรรมดาไปแต่งให้เหมือนแร็พเตอร์จึงทำไม่ได้ แถมยังมาพร้อมระบบเบรกคู่หน้าและหลังเป็นดิสก์เบรกขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมครีบระบายความร้อน

จุดเด่นการขับขี่ คือ โหมดการขับขี่ มีให้เลือก 6 โหมด เปลี่ยนก็ง่ายไปตามสภาพถนนที่ต้องการ ทั้งธรรมดา สปอร์ต ทุ่งหญ้า-หิมะ หินกรวด เด่นสุดคือโหมดบาฮา ที่ได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขันแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาที่ประเทศเม็กซิโกเป็นการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ที่ทำแบบนี้ได้เพราะระบบกันสะเทือนที่ดี ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกอะลูมิเนียม 2 ชั้น พร้อมโช้ก Fox Racing Shox และโช้กหลังแบบคอยล์โอเวอร์ช็อกพร้อมโช้ก Fox Racing Shox แบบมีซับแท็งค์ ผลิตโดย FOX เพิ่มแรงต้านเมื่อมีการกระแทกเต็มช่วงยุบกระบอกสูบ และจะลดแรงต้านเมื่อขับขี่บนถนนทางเรียบเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล มีระบบกันสะเทือนวัตต์ลิงก์ ช่วยการขับขี่ความเร็วสูงบนสภาพผิวถนนที่ขรุขระโดยเฉพาะทำให้คุมรถได้ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นการป้องกันการพลิกคว่ำ ด้วยเซ็นเซอร์ที่ช่วยตรวจจับและลดอัตราการเลี้ยวเกิน เลี้ยวขาด และการพลิกคว่ำ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา

จากการทดลองขับในสนามที่ฟอร์ดจัดไว้ทดสอบ ณ ทุ่งกังหันลมห้วยบง จ.นครราชสีมา ทางกรวด หิน ดิน ทราย ไม่หวั่น ผ่านได้ด้วยความเร็วสูง กระโดดได้แบบโฆษณา ถือพวงมาลัยนิ่งๆ ก็จบ ทั้งนี้ การทดสอบอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมงาน ไม่ขอแนะนำให้ไปทำตาม ส่วนขับถนนปกติก็ไปได้ ที่ความเร็วสูง อาจได้ยินเสียงยางเล็กน้อย

สรุปสำหรับสาวก หรือผู้ที่สนใจกระบะฟอร์ด และกำลังมองหารถกระบะสมรรถนะดี ใช้งานในชีวิตประจําวันปกติบนถนนเมืองไทย วิ่งบนถนนดำเป็นหลัก อาจมีลุยบนถนนฝุ่นบ้าง มีบรรทุกหนักๆ มีระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยที่ดีระดับหนึ่ง ขอให้เข้าไปศึกษาและทดลองขับ เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ปี 2018 ในราคา 1,265,000 บาท ก็เพียงพอแล้ว

ถ้าต้องการมากกว่านั้น บ้านไม่ได้อยู่ในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ พอมีพื้นที่ให้มันได้วิ่ง เจอหลุมบนถนนเมืองไทยแล้วไม่กลัว ก็ต้องเป็นคันนี้แล้วล่ะ

อาร์ม สามย่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image