นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของเดือนกันยายนต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศ ทั้งสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่จะมีการเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ค่าเงินในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่มีผลกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยแนะนำหุ้นเด่น 2 ตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ 1.CKP แม้ว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1-2/2561 จะออกมาไม่ดี มีกำไรรวมกัน 2 ไตรมาสที่ 80 ล้านบาท แต่มองว่าในช่วงไตรมาส 3/2561 มีโอกาสที่บริษัทจะทำกำไรได้ประมาณ 350-400 ล้านบาท เติบโตขึ้นมาก จากปริมาณน้ำในลาว ทำให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทำได้มากขึ้น โดยเขื่อนน้ำงึมมีกำลังการผลิตประมาณ 600 กว่าเมกะวัตต์ ซึ่งประเมินว่าการที่มีปริมาณน้ำมากนี้ จะยิ่งผลิตไฟฟ้าได้มาก ซึ่งอาจจะเกินเป้าที่บริษัทวางไว้
นายชัยยศกล่าวว่า มองว่ากำลังการผลิตไตรมาส 3 นี้จะเติบโตขึ้น 136% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและเติบโตขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และประเมินว่ากำไรในไตรมาสนี้อาจจะทำสถิติใหม่สูงสุด ส่งผลให้กำไรรวมทั้งปีอยู่ที่ 542 ล้านบาท เติบโต 95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากการถือหุ้นเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งเมื่อเทียบสัดส่วนการถือหุ้น 40% จะมีกำลังการผลิตประมาณ 300 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตรวม 1,285 เมกะวัตต์ ทำให้รายได้ในปีหน้าเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยให้ราคาพื้นฐาน 4.80 บาท
นายชัยยศกล่าวว่า และอีกตัวคือ DCC แม้ว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมา นับตั้งแต่ไตรมาส 4/2560 ผลประกอบการจะออกมาไม่ดี เนื่องจากราคาแก๊ซธรรมชาติ ซึ่งคิดเป็นต้นทุนหลักประมาณ 30% จะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน ประกอบกับการที่มีคู่แข่งจากจีน ส่งผลให้เกิดการดั้มพ์ราคาในตลาด แต่ในไตรมาส 3 นี้ ราคาแก๊ซธรรมชาติเริ่มทรงตัว การแข่งขันลดลง บริษัทเองก็เริ่มปรับประสิทธิภาพการผลิต โดยการเพิ่มธุรกิจให้เช่าพื้นที่หน้าร้าน โดยในเฟสแรกจะทำวันสต็อปเซอร์วิส ในสาขา 60 แห่งก่อน จากจำนวนสาขาทั้งหมดกว่า 200 แห่ง รายได้จากส่วนนี้คาดว่าเพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท และประเมินกำไรปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท และในปีหน้า 1,300 ล้านบาท ให้ราคาพื้นฐาน 3.10 บาท
